โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์แจ้งความจับผู้ปกครองเด็กนักเรียนฐานผิด พรบ. คอมพิวเตอร์ 

            ยังคงเป็นกระแสให้เราต้องพูดถึงกันอีกครั้งหนึ่งสำหรับโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีข่าวโด่งดังขึ้นหน้าหนึ่งเป็นสัปดาห์เลยทีเดียวเมื่อทางผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลนั้นจับได้ว่าคุณครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ทำร้ายเด็กนักเรียนโดยมีหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนเองและเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายนั้นก็มีเป็นจำนวนมากจนทางผู้ปกครองของเด็กนักเรียนต่างก็รวมตัวกันเรียกร้องเอาผิดกับทางโรงเรียนซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นส่งผลทำให้มีครูเป็นจำนวนมากที่ทำร้ายเด็กนักเรียนถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

        แต่ข่าวคราวในครั้งนั้นยังเงียบหายไปได้ไม่นานก็มีข่าวใหม่ของโรงเรียนสารสาสน์ราชพฤกษ์ออกมาให้เรานั้นต้องติดตามกันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีผู้ปกครองรายหนึ่ง ของโรงเรียนสารสาสน์ราชพฤกษ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมารอถึงที่โรงเรียนเพื่อทำการเข้าจับกุมในข้อหาทำผิดพรบ.คอมพิวเตอร์

        โดยทางผู้ปกครองคนดังกล่าวนั้นได้มีการตั้งเพจใน Facebook ขึ้นมาซึ่งในเพจดังกล่าวนั้นจะเป็นการนำข้อมูลของทางผู้ปกครองคนอื่นๆมาโพสต์เผยแพร่ให้กับกลุ่มผู้ปกครองที่มีลูกเรียนอยู่ในโรงเรียนสารสาสน์รับทราบถึงปัญหาว่าในขณะนี้มีผู้ปกครองคนไหนที่มีรูปของตนเองได้รับความเดือดร้อนขณะที่เรียนอยู่ในโรงเรียนสารสาสน์บ้างและยังมีการนำข่าวเก่าๆซึ่งเป็นข่าวที่คุณครูทำร้ายเด็กรวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาของโรงเรียนสารสาสน์มโพสในเพจดังกล่าวอีกด้วย  

      และด้วยเหตุนี้นั่นเองทำให้โรงเรียนสารสาสน์ได้มีการให้ทนายความเข้าดำเนินการแจ้งความกับทางผู้ปกครองที่เปิดเพจนี้โดยมีการแจ้งไว้หลายสถานีตำรวจด้วยกันและแต่ละที่นั้นก็อยู่ไกลจากบ้านของผู้ปกครองมากเช่นแจ้งความไว้ที่จังหวัดสุราษฎร์รวมถึงจังหวัดเชียงใหม่และที่จังหวัดสุโขทัยก็มีโดยข้อหาที่มีการแจ้งนั้นก็เป็นข้อหาเดียวกัน

         นอกจากนี้ทางด้านผู้ปกครองที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีนั้นยังได้ระบุอีกด้วยว่าทางโรงเรียนได้มีการส่งจดหมายไปถึงที่บ้านพร้อมทั้งระบุให้ผู้ปกครองนั้นพาลูกของตนเองลาออกจากทางโรงเรียนโดยมีกำหนดไว้เพียงแค่ 90 วันเท่านั้นโดยให้เหตุผลจากการบังคับให้ลาออกจากโรงเรียนในครั้งนี้ว่าผู้ปกครองนั้นมีความเป็นปรปักษ์กับทางโรงเรียนทำให้ทางโรงเรียนนั้นไม่สามารถที่จะรับเด็กเข้าเรียนได้

         ซึ่งเรื่องนี้โรงเรียนไม่ควรที่จะนำเรื่องราวความไม่พอใจผู้ปกครองไปลงกับเด็กเพราะในขณะนี้ทำให้เด็กนั้นไม่มีที่เรียนเนื่องจากว่าใกล้จะปิดเทอมแล้วยังไม่มีโรงเรียนไหนสามารถที่จะรับเด็กเข้าเรียนได้ต้องรอเทอมหน้าถึงจะสามารถย้ายได้ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเด็กไม่สามารถเรียนโรงเรียนเดิมได้และไม่สามารถย้ายไปโรงเรียนไหนได้ก็จะทำให้เด็กนั้นเสียเวลาไป 1 ปีเลยทีเดียวโดยเหตุการณ์นี้ทางด้านกระทรวงการศึกษาควรจะเข้ามาดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    บาคาร่า บิกินี่