สาวเบนซ์กร่างหอบกระเช้าขอโทษตำรวจแล้ว หวังจบดราม่า แต่ชาวเน็ตยังสงสัย สุดท้ายแล้วเธอลูกใคร

    สาวเบนซ์กร่างหอบกระเช้าขอโทษ   เชื่อว่ายังคงจำกันได้จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอหญิงสาวรายหนึ่งที่ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุการณ์ในกรณีที่หญิงสาวรายนี้ขับรถย้อนศรจนมีการประสานงานกับรถกระบะและทำให้เหตุการณ์บานปลายทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นตรงบริเวณถนนลำลูกกาซึ่งอยู่ในท้องที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. คูคต

     สำหรับทริปที่มีการใช้กันนั้นเป็นคลิปที่หญิงสาวคนดังกล่าวนั้นนอกจากจะทำร้ายร่างกายตำรวจแล้วยังกร่างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าพ่อของตนเองนั้นเป็นคนใหญ่คนโตซึ่งมีการถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับ พ่อของเธอเพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นปล่อยเธอไปเลยถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ไหมว่าพ่อของเธอนั้นเป็นใครซึ่งแน่นอนว่าเรื่องราวจะจบลงเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ควบคุมหญิงสาวคนดังกล่าวพร้อมกับแจ้งข้อหาในการทำผิดกฎหมายในครั้งนั้นไปทั้งหมด 4 ข้อหาด้วยกัน

      อย่างไรก็ตามหญิงสาวที่อยู่ในคลิปที่กำลังใจกันในโลกออนไลน์นั้นได้มีการประกันตัวเองออกมาแล้วเมื่อวันที่ 8 เดือนมกราคมปีพศ. 2564 ก็ได้มีการนำกระเช้าเดินทางไปที่สภคูคตซึ่งเป็นสถานีตำรวจประจำจังหวัดปทุมธานีโดยนำกระเช้าผลไม้ดังกล่าวนั้นไปขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกเธอนั้นใช้รองเท้าตบหน้าและด่าทอ  

        หญิงสาวคนดังกล่าวนั้นได้มีการขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจและยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทุกข้อกล่าวหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อหารวมถึงได้มีการยกมือไหว้ขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตนเองนั้นได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจไปอย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวยังได้มีการสัญญากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่าจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกและเธอก็ได้ฝากขอโทษสังคมมาในที่นี้ด้วย

       อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำขอโทษของหญิงสาวเป็นที่เรียบร้อยแล้วและไม่ติดใจเอาความใดๆเพราะเชื่อว่าหญิงสาวก็ทำไปเนื่องจากว่าฤทธิ์ของสุราเพราะเมาหนักมากนั่นเอง   นอกจากนี้ยังได้แนะนำหญิงสาวคนดังกล่าวไปด้วยว่าไม่ควรจะกินเหล้าเมามากและที่สำคัญถ้าเมาไม่ควรขับรถเพราะว่าผิดกฎหมาย  ทางเข้า ยูฟ่าเบท มือถือ    และอาจจะส่งผลเสียทำให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่นบนท้องถนนได้

     สำหรับหญิงสาวคนดังกล่าวที่เมากร่างทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและทำลายทรัพย์สินของคนอื่นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเปิดเผยผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายในวันเกิดเหตุว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 176 mg เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

     อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีการเผยแพร่คลิปที่หญิงสาวมายกมือไหว้ขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจและไหว้ขอโทษคนในสังคมแต่ชาวโซเชียลนั้นก็ยังมีการใช้เรื่องนี้กันอยู่และยังมีการพูดถึงเรื่องนี้เพราะสุดท้ายแล้วชาวโซเชียลก็ยังต้องการทราบว่าสรุปแล้วหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นลูกสาวของใคร 

เพื่อนบ้านแสบโยนทั้งแมสก์ ฉี่และอึ ใส่ข้างบ้านพอถามบอกไม่ได้ทำ 

    เพื่อนบ้านแสบโยนทั้งแมสก์ ฉี่และอึ  เมื่อวันที่ 11 เดือนตุลาคมปีพศ 2564 ได้มีหญิงสาวรายนึงมีการอัดคลิปแล้วนำไปโพสต์ในโลกออนไลน์ระบุว่าเธอได้รับการก่อกวนจากเพื่อนบ้านซึ่งเป็นบ้านที่ใช้กำแพงร่วมกันเนื่องจากว่าหมู่บ้านของเธอนั้นเป็นทาวน์เฮ้าส์ด้วยเธออาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตดอนเมือง   โดยในคลิปจะเห็นได้ว่าบริเวณกำแพงบ้านนั้นมีขวดพลาสติกถูกอัดตามรูของล่องกำแพงภายในขวดพลาสติกนั้นมีทั้งฉี่และอึรวมถึงหน้ากากอนามัยด้วย 

           อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้นักข่าวได้มีการเข้าไปพูดคุยกับหญิงสาวที่นำภาพดังกล่าวมาโพสต์ซึ่งเธอระบุว่าข้างบ้านของเธอนั้นเป็นกำแพงร่วมซึ่งเป็นปกติของบ้านที่เป็นแบบทาวน์เฮ้าส์อยู่แล้วและเธอมีปัญหากับเพื่อนบ้านซึ่งอันที่จริงแล้วเพื่อนบ้านคนดังกล่าวนั้นเป็นป้าสะใภ้ของเธอเองแต่ไม่ได้มีการพูดคุยกันมาเป็นเวลานานแล้วนับตั้งแต่ลุงของเธอเสียชีวิต

      อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวยังระบุด้วยว่าเธอและป้าสะใภ้นั้นมีปัญหากันมาประมาณเกือบปีแล้วเนื่องจากทะเลาะกันเกี่ยวกับเรื่องของกลิ่นเหม็นเน่าของถังขยะของป้าซึ่งมีการปล่อยให้น้ำในถังขยะไหลมาที่บ้านของตนเองและเมื่อไปพูดคุยกันก็ไม่สามารถตกลงกันได้จึงมีปากเสียงกันนับตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันอีกเลยปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการเหม็นของขยะต่างๆนั้นเธอเคยแจ้งไปที่สำนักงานเขตไปแล้วถึง 2 ครั้งแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร

       อย่างไรก็ตามที่เธอนำคลิปไปโพสต์ในโลกโซเชียลเนื่องจากว่าเธอทนไม่ไหวพอได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากป้าสะใภ้ของเธอนั้นนำหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วโยนทิ้งมาฟังบ้านของเธอรวมถึงยังเอาฉี่ใส่ขวดพลาสติกมายัดไว้ตามร่องกำแพงบ้านของเธอรวมถึงมีการใส่ขวดมายัดไว้ตามร่องซึ่งทำให้ส่งกลิ่นเหม็นสำหรับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่และได้มีการไปสอบถามเพื่อนบ้านคนอื่นซึ่งพบว่าเรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง

      เนื่องจากว่ามีเพื่อนบ้านคนนึงได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน  ufabet auto    โดยบ้านหลังดังกล่าวนั้นเปิดเป็นร้านขายขนมให้ข้อมูลกับนักข่าวว่าทุกครั้งที่ลมพัดก็จะได้กลิ่นเหม็นช่วยมาซึ่งได้รับความเดือดร้อนมากเพราะนอกจากจะมีกลิ่นเหม็นแล้วยังมีแมลงวันด้วย  อย่างไรก็ตามเธอได้เคยไปคุยกับผู้ก่อเหตุแต่ทางหญิงที่ก่อเหตุนั้นยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำนอกจากนี้เมื่อนักข่าวมีการไปพูดคุยด้วยหญิงคนดังกล่าวก็ยืนยันว่าตัวเธอนั้นไม่ได้มีการทำอย่างที่เพื่อนบ้านร้องเรียนแต่อย่างใด

      โดยเธอระบุว่าเธอออกไปทำงานกลับมาก็มืดค่ำแต่เธอยอมรับว่าเธอเอาขวดพลาสติกไปปิดตามร่องตรงกำแพงจริงเนื่องจากว่าเพื่อนบ้านของเธอนั้นได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดและหันหน้ากล้องวงจรปิดมาที่บ้านของเธอซึ่งบ้านของเธอมีแต่ผู้หญิงเธอจึงต้องปิดเพื่อไม่ให้กล้องส่องมาเห็นคนภายในบ้านเพียงเท่านั้น

วิวาห์ล่ม หลังฝ่ายเจ้าบ่าวขอเพิ่มสินสอดในขณะที่กำลังมีการจัดงานแต่งงาน

       เจ้าบ่าวขอเพิ่มสินสอด  โดยปกติแล้วการจัดงานแต่งงานนั้นฝ่ายที่มีการเรียกสินสอดก็มักจะเป็นฝ่ายเจ้าสาวซึ่งฝ่ายเจ้าบ่าวก็ต้องมีการเตรียมสินสอดทองหมั้นมาให้ทางฝ่ายเจ้าสาวในวันแต่งงาน  อย่างไรก็ตามมีประเทศอีกประเทศหนึ่งในโลกที่มีความแตกต่างจากประเทศอื่นๆเพราะในการแต่งงานนั้นประเทศนี้จะให้ฝ่ายที่เป็นผู้หญิงเป็นคนเตรียมสินสอดทองหมั้นเพื่อไปขอผู้ชายซึ่งประเทศดังกล่าวนั้นก็คือประเทศอินเดียนั้นเอง

      และเว็บไซต์ต่างประเทศก็มีการโพสต์เรื่องราวโดยมีการระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในประเทศอินเดียเป็นเรื่องราวที่มีการแชร์กันมากในโลกโซเชียลของอินเดียโดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพิธีจัดการแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งซึ่งมีการจัดพิธีกรรมในวันที่ 12 เดือนธันวาคม ปีพ.ศ. 2564  

          สิ่งที่ทำให้งานแต่งงานในครั้งนี้โด่งดังไปทั่วทั้งประเทศและโด่งดังออกมาถึงนอกประเทศนั้นก็เพราะว่าในระหว่างที่มีการจัดเตรียมงานแต่งงานและพิธีกำลังจะเริ่มอยู่นั้นปรากฏว่าทางด้านเจ้าบ่าวและพ่อของเจ้าบ่าวได้มีการเรียกร้องให้ฝ่ายทางด้านเจ้าสาวและครอบครัวจงสร้างสาวนั้นได้มีการเพิ่มเงินค่าสินสอดทองหมั้นให้มากขึ้นกว่าเดิมทำให้ครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวนั้นรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะมีการตกลงไว้ก่อนหน้านั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         แต่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวจะมาขอเพิ่มในวันที่มีการจัดพิธีงานแต่งงานและขอเพิ่มก่อนที่จะเริ่มพิธีเพียงอีกไม่กี่นาทีเท่านั้นทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นภายในงานแต่งงานเพราะทางฝ่ายเจ้าสาวเองก็ไม่พอใจจึงได้มีการลงไม้ลงมือทำร้ายพ่อเจ้าบ่าวและตัวเจ้าบ่าวเองสถานการณ์จึงบานปลายวุ่นวายจนในที่สุดงานแต่งงานที่คิดว่าจะสวยหรูและประสบความสำเร็จก็ล่มไม่เป็นท่าการจัดงานแต่งงานในครั้งนั้นจึงสิ้นสุดลงโดยที่พิธียังไม่ทันเริ่มด้วยซ้ำไป   

           ยังไงก็ตามตามรายงานข่าวได้มีการระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในขณะที่ทั้งสองครอบครัวกำลังรับประทานอาหารร่วมกัน  สมัคร gclub royal1688 ในช่วงเวลาเย็นซึ่งยังอยู่ในช่วงของพิธีกรรมในการจัดงานแต่งงานอยู่ๆทางด้านเจ้าบ่าวและพ่อของเจ้าบ่าวนั้นก็ได้มีการพูดถึงเรื่องสินสอดขึ้นมาโดยมีการขอเพิ่มมูลค่าของสินสอดมาเป็น 4.4 แสนบาทซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการตกลงกันไปอยู่ที่ 1.3 แสนบาทนั่นเอง

            อย่างไรก็ตามเมื่อถูกครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวปฏิเสธครอบครัวของฝ่ายเจ้าบ่าวก็ปฏิเสธที่จะมีการจัดงานแต่งงานต่อไปเช่นเดียวกันโดยมีการข่มขู่ทางฝ่ายของเจ้าสาวว่าจะมีการยกเลิกการจัดงานแต่งงานทันที  

          อย่างไรก็ตามมีการรายงานเพิ่มเติมด้วยว่าจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าทางด้านครอบครัวของเจ้าบ่าวหรือเจ้าบ่าวรายนี้นั้นพบว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของการจัดการแต่งงานอยู่บ่อยครั้งและมักจะปฏิเสธครอบครัวของฝ่ายหญิงในระหว่างที่มีการแต่งงานซึ่งหลายคนมองว่าครอบครัวนี้น่าจะต้องการที่จะจัดการแต่งงานขึ้นมาเพื่อทำการเรียกร้องเงินทองมากกว่าต้องการจัดงานแต่งงานเพราะความรักนั่นเอง 

กระแสตีกลับน้าเน็ก หลัง ไลฟ์ ขอโทษทิดไพรวัลย์ 

      หากใครได้ติดตามข่าวสาร Social Media ช่วงนี้จะเห็นได้ว่าข่าวที่กำลังร้อนแรงมากอยู่ในขณะนี้ก็คือการที่เป็นข่าวของ ทิดไพรวัลย์  ได้มีการผิดใจกับน้าเน็กในระหว่างที่กำลังทำรายการนินทาประเทศไทย  กระแสตีกลับน้าเน็ก ซึ่งในคลิปล่าสุดที่ ทิดไพรวัลย์  ได้ทำรายการนี้  ทิพวรรณได้มีการประกาศลาออกจากรายการนินทาประเทศไทยกลางรายการทำให้น้าเน็ก และพิธีกรคนอื่นนั้นพากันตกใจเพราะไม่รู้เรื่องราวมาก่อนว่า ทิดไพรวัลย์  จะลาออก 

       โดยเหตุการณ์ที่ทำให้ทิดไพรวัลย์  ตัดสินใจประกาศลาออกกลางรายการและลูกออกจากการจัดรายการสดทันทีนั่นก็เพราะว่าในขณะที่มีการพูดคุยกันอยู่นั้นปรากฏว่านะเล็กซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีกรได้มีการนำข้อความที่ทางลูกเพจได้มีการส่งข้อความเข้ามาอ่านและมีการพูดถึงทิดไพรวัลย์  ส่งข้อความแต่ละข้อความนั้นเป็นคำด่าทิดไพรวัลย์ ทั้งหมด โดยมี 2พิธีกร คอยส่งเสริมคำพูดของน้าเน็ก 

             ส่งผลทำให้ในตอนแรกทิดไพรวัลย์  ที่มีใบหน้ายิ้มแย้มอยู่ๆก็ออกมาประกาศว่าจะขอยุติการจัดรายการและให้มีผลทันทีหลังจากนั้นก็เดินออกจากห้องส่งจัดรายการทันทีและทำให้พฤติกรรมทั้ง 3 คนต่างก็พากันตกใจและผู้ประกาศออกไมค์ว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยว่าทิดไพรวัลย์  จะลาออกจากงานกลางคันแบบนี้ หลังจากนั้นก็มีการพูดถึงทิดไพรวัลย์ ไปในทางที่ไม่ค่อยดี

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่รายการนินทาประเทศไทยจบลงทางด้านทิดไพรวัลย์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์นักข่าวว่าอันที่จริงแล้วสิ่งที่น้าเน็กกับพิธีกรคนอื่นๆนั้นพูดไม่เป็นความจริงทั้งหมดเพราะอันที่จริงแล้วทิดไพรวัลย์ ได้มีการบอกพิธีกรทุกคนก่อนหน้าที่จะมีการจัดรายการในวันดังกล่าวและว่าจะขอยุติการเป็นพิธีกรรายการนินทาประเทศไทย

          ที่สำคัญที่ตัดสินใจลุกออกมาจากรายการกลางคันนั่นก็เพราะว่าข้อความที่ส่งมานั้นเป็นข้อความที่ด่าตนเองทั้งสิ้นและพิธีกรก็เอานำมาพูดกลางรายการซึ่งตัวทิดไพรวัลย์ ไม่อยากที่จะนั่งฟังคนอื่นด่าตนเองจึงได้ตัดสินใจลุกออกมาและเพื่อที่จะได้ให้รายการนั้นดำเนินไปได้ตามปกติเพราะการที่มานั่งนินทาทิดไพรวัลย์  มันผิดวัตถุประสงค์กับรายการที่ชื่อช่องว่านินทาประเทศไทย

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทิดไพรวัลย์  ได้ออกมาพูดแบบนี้ทางด้านนั้นเองก็ออกมาชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกันแต่คำชี้แจงของน้าเน็กนั้นกลายเป็นว่ากระแสตีกลับน้าเน็กอย่างต่อเนื่องจนเหนื่อยต้องมาไลฟ์สดขอโทษทิดไพรวัลย์  อีกครั้งแต่การขอโทษนั้นก็ยังมีการจิกกัดพาดพิงไปถึงทิดไพรวัลย์  ซึ่งชาวโซเชียลมองว่าเป็นการขอโทษที่ไม่จริงใจดังนั้นกระแสจึงตีกลับนะเล็กอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.      ufabet เว็บแม่

แม่ลูกอ่อนชัยภูมิ ระบายทั้งน้ำตา ผ่าคลอดปวดแผล แต่กลับไปพักผ่อนไม่ได้เพราะติดขบวนนายก 

         แม่ลูกอ่อนชัยภูมิ ระบายทั้งน้ำตา เมื่อวันที่ 29 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2564  นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมกับคณะรัฐมนตรีได้เดินทางไปที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อลงพื้นที่ไปเยี่ยมชาวบ้านที่กำลังพบกับปัญหาน้ำท่วม

ปรากฏว่าตลอดเส้นทางการเดินเพื่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านนั้นมีทั้งชาวบ้านที่ออกมาต้อนรับ และในขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านบางกลุ่มที่ไม่พอใจ และด่าทอนายกด้วยถ้อยคำหยาบคาย  จนเกิดเป็นกระแสดราม่าให้พุดถึงกันมากในโลกออนไลน์ 

     นอกจากนี้ใน Application TikTok ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์คลิป โดยระบุว่าเป็นคลิปที่ถ่ายขึ้นในจังหวัดชัยภูมิ ในช่วงที่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธิ์เดินทางไปเยี่ยมชาวบ้าน  ซึ่งในคลิปจะเห็นว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ในเรือยางสีฟ้า และเธอกำลังอุ้มทารก รอบรอบเรือยางมีคนอยู่ประมาณ 3-4 คนกำลังช่วยกันดันเรือยางให้เคลื่อนไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันหญิงสาวคนที่อุ้มทารกก็ร้องไห้ พร้อมกับระบายด้วยความอัดอั้นตันใจ โดยเธอระบุว่า เธอเพิ่งผ่าคลอดและหมอให้ออกจากโรงพยาบาล ซึ่งเธอเพิ่งผ่าได้เพียงแค่ 3 วันเท่านั้นแผลของเธอยังไม่หาย และเธอเจ็บท้องมาก 

         แต่ระหว่างที่ออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อนั่งเรือกลับบ้านนั่น เธอต้องเดินออกมาเอง เพราะไม่สามารถนั่งรถเข็ญออกมาตรงบริเวณที่จอดเรือได้ อย่างไรก็ตามเธอต้องเจอกับปัญหาเมื่อมาถึงหน้าโรงพยาบาลระหว่างรอข้ามถนนไปอีกฝากเพื่อไปนั่งเรือปรากฎว่า รปภ. ของโรงพยาบาลไม่ให้เธอและคนอื่นอื่นข้าม

แต่ให้ฝั่งตรงข้ามเดินข้ามมาในโรงพยาบาลได้ โดยให้เหตุผลว่า ขบวนของนายกประยุทธ์กำลังจะมาถึงให้รอต้อนรับ ทำให้เธอไม่พอใจมาก เพราะเธอต้องยืนนาน และเธอปวดแผลที่ผ่าคลอดมาก และแดดก็ร้อนมากเช่นกัน

        ที่สำคัญเธออุ้มทารกอยู่ในมือ เธอกลัวลูกของเธอจะไม่สบาย เพราะจากในคลิปจะเห็นว่ามีคนมายืนรวมกันเยอะมาก ไม่มีเว้นระยะห่างซึ่งเสี่ยงสูงมากต่อการติดโควิด-19  อย่างไรก็ตามในคลิปหญิงสาวเล่าเรื่องราวไปและร้องไห้ไป พร้อมกันนี้เธอก็ฝากถึงนายก ว่าจะเดินทางมาเยี่ยมชาวบ้านทำให้ชาวบ้านเดือดรอ้นทำไม เพราะถึงแม้ว่านายกจะมาถึงชัยภูมิแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้ กลับยิ่งสร้างปัญหาให้กับชาวบ้านต้องมายืนรอรับ 

           นอกจากนี้เธอยังด่าไปยังโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ รปภ. ที่ต้องการเอาหน้าให้นายกเห็นด้วยการกักตัวคนไข้ ไม่ให้ออกจากโรงพยาบาล เพราะจะให้คนไข้รอต้อนรับนายก ทั้งที่คนไข้ ไม่สบายและบางคนก็มีธุระ ซึ่งหลังจากคลิปนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้าไปปลอบใจหญิงสาวคนดังกล่าวกันมาก และอวยพรให้แข็งแรงเร็วๆ 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

ตำรวจจับกุมโจรออกอาละวาดนัดร้านโทรศัพท์มือถือในตลาดนกฮูก 

         เจ้าหน้าที่ตำรวจสภรัตนาธิเบศร์ได้มีการออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องของการ ตำรวจจับกุมโจร ที่มีการเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในตลาดนกฮูก

โดยการแถลงการณ์การจับกุมคนร้ายในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เดือนมกราคมพ.ศ 2555 ที่ผ่านมาซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าคนร้ายรายนี้อายุ 36 ปีได้มีการตะเวนเข้าไปภายในตลาดนกฮูกและไปรับทรัพย์สินร้านค้าที่ตั้งอยู่ในตลาดดังกล่าวด้วยมีอยู่ร้านนึงซึ่งเป็นร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือถูกขโมยทรัพย์สินไปมากถึง 4 ครั้งด้วยกัน  

      เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลในช่วงที่มีการแถลงข่าวว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือชื่อว่าร้านอะไรทีเน่าซึ่งมีการเปิดร้านค้าอยู่ภายในตลาดนกฮูกซึ่งตลาดแห่งนี้อยู่ในจังหวัดนนทบุรีแถวถนนเลี่ยงเมืองโดยทางเจ้าของร้านนั้นได้มีการเดินทางมาที่สถานีตำรวจเพื่อทำการแจ้งความว่าร้านนั้นถูกขโมยเข้าไปลักทรัพย์โดยครั้งสุดท้ายที่ถูกลักทรัพย์นั้นเป็นวันที่ 15 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ซึ่งทางเจ้าของร้านพบว่าทรัพย์สินภายในร้านหายไปในช่วงเวลาประมาณ 17:30 น ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าของร้านมาทำการเปิดร้านเพื่อจะขายของในช่วงเวลากลางคืนในตลาดนกฮูกนั่นเอง

        อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือกล่าวว่าหลังจากที่เขามาเปิดประตูที่ร้านก็พบว่าภายในร้านนั้นมีร่องรอยการถูกงัดแงะและเมื่อตรวจสอบทรัพย์สินภายในร้านก็มีสูญหายไปหลายรายการนอกจากนี้ทางร้านก็ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ซึ่งพบว่าช่วงเวลาประมาณ 11.30 นมีรถมอเตอร์ไซค์ของคนร้ายมาจอดที่บริเวณหน้าร้านหลังจากนั้นคนร้ายก็งัดแงะเข้ามาภายในร้านและขโมยโทรศัพท์มือถือไปรวมถึงขโมยเคสของโทรศัพท์มือถือไปมูลค่าความเสียหายนั้นอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท 

       อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือยืนยันว่าคนร้ายรายนี้ไม่ได้ก่อเหตุเพียงแค่ครั้งแรกเท่านั้นแต่ร้านของเขานั้นถูกเข้ามาขโมยทรัพย์สินมากถึง 4 ครั้งด้วยกันซึ่งมูลค่าความเสียหายนั้นก็แตกต่างกันในแต่ละครั้งและไม่ใช่เพียงแค่ร้านของเขาร้านเดียวเท่านั้นยังมีร้านค้าอีกประมาณ 3 ร้านที่ก็ถูงัดแงะเช่นเดียวกันโดยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกัน 

         ซึ่งหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คลิปจากกล้องวงจรปิดของทางร้านก็รีบตรวจสอบคนร้ายทันทีโดยดูจากเลขทะเบียนของรถมอเตอร์ไซค์ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุจนสามารถที่จะจับกุมคนร้ายในครั้งนี้มาได้โดยคนร้ายนั้นได้นำอุปกรณ์ต่างๆที่ขโมยมาได้ไปขายในร้านโทรศัพท์มือถือที่อยู่ภายในห้างอิมพีเรียลจังหวัดสมุทรปราการโดยคนร้ายบอกว่าตนเองนั้นตกงานเพราะติดคุกมาและออกจากคุกมาก็ยังหางานทำไม่ได้นอกจากนี้ยัง ไม่รู้หนังสือทำให้หางานทำได้ยากจึงได้ตัดสินใจมาก่อเหตุลักทรัพย์เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือพ่อกับแม่ที่กำลังป่วยหนัก 

 

สนับสนุนโดย.    Ufabet เข้าสู่ระบบ

เด็ก 3 ขวบมีเลือดไหลออกจากอวัยวะเพศตรวจสอบภายในพบปลิงในช่องคลอด สาเหตุพอเล่นน้ำช่วงน้ำท่วม

      พบปลิงในช่องคลอด    เมื่อวันที่ 19 เดือนตุลาคมปีพ. ศ. 2564 ได้มีผู้ปกครองรายนึงได้ออกมาโพสต์เตือนภัยผ่านทาง facebook เธอมีการระบุข้อความใน Facebook ของเธอว่าเรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับลูกสาวของเธอเองด้วยเธอบอกว่ามันสามารถที่จะเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยให้กับผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานของตนเองให้ดีอย่าปล่อยให้กับบุตรหลานของตนเองนั้นลงไปเล่นน้ำที่เป็นน้ำท่วม

        โดยระบุว่าลูกสาวของเธอวัย 3 ขวบได้แล้วขอลงเล่นน้ำซึ่งเป็นน้ำที่ท่วมอยู่หน้าบ้านโดยน้ำนั้นไม่ได้ลึกมากนักและเธอก็ปล่อยให้ ลูกสาวของเธอเล่นน้ำอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงและเมื่อลูกสาวของเธอเลิกเล่นน้ำเธอก็พบว่าที่อวัยวะเพศของลูกสาวของเธอนั้นมีเลือดไหลออกมาเธอรู้สึกตกใจมากในตอนแรก ชั่วโมง

และเมื่อลูกสาวของเธอเลิกเล่นน้ำเธอก็พบว่าที่อวัยวะเพศของลูกสาวของเธอนั้นมีเลือดไหลออกมาเธอรู้สึกตกใจมากในตอนแรกเธอมองว่านั้น เธอเข้าใจว่าลูกสาวของเธออาจจะถูกคนรวนรามเธอจึงรีบพาลูกสาวของเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลทันที

     โดยมีการแจ้งอาการให้กับคุณหมอทราบหลังจากนั้นคุณหมอก็พาลูกสาวของเธอเข้าห้องตรวจและทำการตรวจภายในหลังจากนั้นคุณหมอก็ออกมาบอกกับเธอว่าภายในช่องคลอดของลูกสาวของเธอนั้นมีปลิงอยู่ด้านในซึ่งมันกำลังดูดเลือดอยู่ภายในบริเวณช่องคลอด  

    อย่างไรก็ตามเธอยังกล่าวอีกว่าช่วงตอนที่ลูกสาวของเธอเล่นน้ำเสร็จแล้วและขึ้นจากน้ำมาหาเธอเพื่อที่จะได้อาบน้ำสะอาดมีครั้งหนึ่งนั้นเธอพบว่าลูกสาวของเธอนั้นมีตัวซีดและมีเลือดไหลออกมาแต่ลูกสาวของเธอนั้นไม่ได้ร้องไห้และไม่ได้แจ้งว่ามีอาการเจ็บแต่อย่างใดโชคดีที่เธอพาลูกสาวของเธอนั้นมาให้คุณหมอตรวจได้เร็วจึงสามารถเอาเป็นตัวนั้นออกมาได้และขนาดนี้ลูกสาวของเธอปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

        พร้อมกันนี้เธอยังกล่าวอีกด้วยว่ามันจะเป็นเครื่องเตือนใจของเธอว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ให้ลูกสาวของเธอเล่นน้ำแบบนี้อีกแล้วเพราะถึงแม้ว่าเหตุการณ์น้ำท่วมน้ำจะค่อนข้างที่จะใสสะอาดแต่ก็อาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นได้ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เธอเข็ดไปอีกนานเลยทีเดียว 

   อย่างไรก็ตามสำหรับสัตว์ที่มาพร้อมกับน้ำท่วมนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ปลิงเท่านั้น แต่ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่อาจมาตามน้ำ หรือหนีน้ำท่วมมาดังนั้นจึงต้องระมัดระวังให้ดี 

 

สนับสนุนโดย.    สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ

ช่างก่อสร้างชุ่ย  เผยภาพการก่อสร้างสะพานลอยในจังหวัดนนทบุรี มีน็อตที่โผล่

         ช่างก่อสร้างชุ่ย  กำลังกลายเป็นที่วิจารณ์อย่างหนักทั้งผ่านทางโลกออนไลน์และจากการที่มีการพูดคุยหรือแชร์เรื่องราวกันของคนในสังคมไทยในตอนนี้เนื่องจากว่า Facebook ของชมรมหนึ่ง ซึ่งเปิดขึ้นมาเพื่อต่อต้านการทุจริตภายในประเทศได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่น่าสะพรึงเมื่อมีการถ่ายรูปสะพานลอยแห่งหนึ่งซึ่งยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโดยสะพานลอยแห่งนี้อยู่ในจังหวัดนนทบุรี

       ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้หลายคนต้องวิจารณ์อย่างหนัก นั่นก็เพราะว่าลูกของเหล็กที่มีการสร้างสะพานลอยนั้นปรากฏว่าน็อตที่ใช้ยึดติดกับปูนนั้นเป็นเพียงแค่น็อตทิพย์เท่านั้นเพราะมีแค่เฉพาะส่วนของด้านหัวส่วนปลายที่จะยึดติดกับปูนนั้นไม่มีสำหรับสะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่สร้างขึ้นตรงบริเวณซอยบ้านกล้วยไทรน้อยซึ่งจะเป็นสะพานที่เอาไว้ข้างถนนใหญ่โดยสะพานแห่งนี้อยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอบางบัวทองนั่นเอง 

         สำหรับเรื่องราวที่ทาง Facebook ที่มีการเปิดขึ้นมาเพื่อต่อต้านการทำงานทุจริตนั้นไม่ได้เป็นการแค่กล่าวอ้างแบบลอยลอยเท่านั้นเพราะเขาได้มีการถ่ายรูปภาพจริงออกมาเผยแพร่ใน Facebook ทำให้เห็นได้ว่าช่างที่รับเหมาก่อสร้างนั้นไม่มีความรับผิดชอบและที่สำคัญสร้างแบบว่าไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยให้กับประชาชนที่จะมาใช้สะพานลอยเลย

        ซึ่งแน่นอนว่าความผิดนั้นทุกคนกำลังถามหาว่าใครจะรับผิดชอบกับเรื่องราวดังกล่าวเพราะมีตั้งแต่คนที่ต้องออกมาตรวจรับงานก่อนจะมีการเซ็นอนุมัติผ่านคนที่ควบคุมการทำงานของช่างดังนั้นเรื่องนี้หลายคนทั้งในโลกออนไลน์และในสังคมทั่วไปจึงมีการถามหาความรับผิดชอบและยังตำหนิการทำงานของช่างเป็นอย่างมากเลยทีเดียวซึ่งจะเห็นได้ว่ากรณีที่มีการทำทริปนี้แสดงว่ามีการโกงการสร้างสะพานลอยเกิดขึ้น

          แน่นอนว่างบประมาณในการสร้างสะพานลอยนั้นคืองบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนที่สำคัญสะพานลอยแห่งนี้คือความปลอดภัยของประชาชนที่จะมาใช้บริการดังนั้นจึงควรสร้างที่มีมาตรฐานและมีความแข็งแรงแต่กลับต้องมาเจอกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทุจริตแบบนี้ทำให้หลายคนไม่พอใจอย่างมากเลยทีเดียว

           สำหรับสะพานลอยแห่งนี้คงต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่ามีการใช้งบประมาณจากที่ไหนสร้างและใครที่เป็นคนตรวจควบคุมงานในการก่อสร้างและปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านออกมาได้อย่างไรรวมถึงคนที่ตรวจรับงานเป็นคนสุดท้ายได้มีการอนุมัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาได้อย่างไรซึ่งถ้าหากว่าตรวจสอบแล้วมีความผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเพราะถือว่าเป็นการทุจริตเงินของทางราชการเอง เชื่อว่ากระแสความรุนแรงนี้ ทางผู้รับผิดชอบต้องออกมาชี้แจงอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.      ufabet เว็บหลัก

ผู้รับเหมาสะพานลอยที่มี น๊อตทิพย์ออกมาชี้แจงแล้ว 

      ผู้รับเหมาสะพานลอยออกมาชี้แจงแล้ว   หากใครได้มีการติดตามข่าวในโซเชียลมีเดียจะเห็นได้ว่าได้มีการพูดคุยกันเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องของสะพานลอยแห่งหนึ่งที่สร้างขึ้นที่อำเภอบางบัวทองจังหวัดนนทบุรีโดยสะพานลอยดังกล่าวนั้นถูกออกมาแฉว่าผู้รับเหมาก่อสร้างมีการทุจริตเนื่องจากว่าสร้างได้ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยพร้อมกันนี้ก็มีการถ่ายรูปภาพสะพานลอยที่มีการสร้างและมีการยึดน็อตเอาไว้

         ในภาพที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์อยู่นั้น จะเห็นได้ว่าตัวน็อตนั้นจะมีเฉพาะแค่ด้านบนเท่านั้นแต่ปลายอีกด้านหนึ่งไม่ได้มีการยึดกับตัวสะพานลอยเอาไว้ทำให้หลายคนที่ได้เห็นภาพดังกล่าวนั้นต่างก็พากันวิจารณ์กับการทำงานของผู้รับเหมาก่อสร้างที่สร้างสะพานลอยแห่งนี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

           อย่างไรก็ตามจากกระแสรุนแรงที่มีการพูดถึงกันตลอดทั้งวันทำให้ในที่สุดนั้นทางด้านผู้รับเหมาก่อสร้างสะพานลอยดังกล่าวก็ได้ออกมาชี้แจงเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยระบุว่ารูปภาพที่มีการถ่ายเฉพาะแค่หัวน็อตนั้นแท้ที่จริงแล้วน็อตดังกล่าวไม่ได้มีการใช้งานในการสร้างสะพานลอยเพียงแค่ผู้รับเหมานั้นได้มีการนำมาติดเอาไว้ให้มันเป็นภาพที่สวยงามเท่านั้นเอง

เพราะตรงเสาที่มีการสร้างกับผูกติดสะพานลอยนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมีการยึดติดน็อตเนื่องจากว่าตัวเสาร์นั้นมีขนาดใหญ่  gclub   และทางผู้รับเหมาก่อสร้างใช้วิธีเอาปูนโบกทับเป็นที่เรียบร้อยแล้วทำให้ตัวเสานั้นไม่มีทางที่จะล้มพังเสียหายอย่างแน่นอน 

            นอกจากนี้ทางผู้รับเหมาที่ทำสะพานลอยยังระบุอีกว่าตัวเสาเหล็กที่มีขนาดใหญ่ที่เอาไว้ยึดติดกับตัวสะพานลอยนั้นแท้ที่จริงแล้วตรงกลางของตัวเหล็กนั้นมีตัวน็อตขนาดใหญ่ที่มีการยึดเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและทางผู้รับเหมายืนยันว่ามีการทำอย่างแข็งแรงและหนาแน่นอย่างแน่นอน

          ซึ่งผู้รับเหมาสามารถรับประกันความปลอดภัยของผู้ที่มาใช้บริการสะพานลอยว่าจะไม่มีเหตุการณ์สะพานลอยพังถล่มลงมาเกิดขึ้นอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตามผู้รับเหมายังมีการระบุเพิ่มเติมด้วยว่าหลังจากเรื่องนี้ถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้างทำให้ตัวเขาเองนั้นถูกเลขไปตำหนิเกี่ยวกับเรื่องของการทำน๊อตทิพย์เพื่อความสวยงามเอาไว้

         แล้วจากกระแสการโจมตีล่าสุดจากประชาชนในครั้งนี้ทำให้กรมทางหลวงของจังหวัดนนทบุรีได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบพร้อมกันนี้ก็ได้มีการให้ผู้รับเหมาได้มาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเอาปูนมาโบกปิดทับน็อตทิพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เพื่อลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนและเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าจะปลอดภัยจากการใช้สะพานลอยนี้อย่างแน่นอน 

   อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างได้เป็นอย่างดีว่าให้ทำงานให้มีคุณภาพมาตรฐาน  เพราะการทำงานช่วยนั้นจะได้รับการตรวจสอบจากประชาชนอย่างแน่นอน 

เตรียมส่งเครื่องบินไปรับคนไทยที่อินเดีย ที่ป่วยติดไวรัสโควิด-19

           เมื่อวันที่ 30 เดือนเมษายน  ปีพศ 2564   เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ว่าในขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้มีการประสานงานกับกองทัพอากาศเพื่อทำการ เตรียมเดินทางไปที่ประเทศอินเดียเนื่องจากว่ามีคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศอินเดีย

นั้นต้องการเดินทางกลับมาประเทศไทยซึ่งในขณะนี้คนไทยดังกล่าวนั้นติดเชื้อไวรัสโควิค-19 และอาการรุนแรงมากเพราะว่ามีการตรวจพบว่าปอดทั้งสองข้างนั้นมีเชื้อโควิค-19  เรียบร้อยแล้วและในขณะนี้ผู้ป่วยยังมีอาการไข้ขึ้นสูงอีกด้วย 

         สำหรับเครื่องบินที่จะนำไปรับผู้ป่วยที่ประเทศอินเดียนั้นจะเป็นเครื่องบินแอร์บัส a320 ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่จะบินจากกรุงเทพฯไปที่กรุงนิวเดลีประเทศอินเดียโดยเครื่องบินลำนี้เป็นของกองทัพอากาศที่ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือกระทรวงการต่างประเทศเป็นกรณีพิเศษซึ่งจะมีการออกจากประเทศไทยในวันที่ 1 เดือนพฤษภาคมปี พศ 2564

และจะออกจากสนามบินช่วงเวลาประมาณ 7:00 น ด้วยภายในเครื่องบินนั้นได้มีการเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อไปรับผู้ป่วยซึ่งอุปกรณ์การแพทย์ที่มีการเตรียมไปนั้นจะมีเครื่องผลิตออกซิเจนจำนวน 25 ชุดซึ่งจะเป็นขนาดเล็กและอีกอย่างหนึ่งก็คือจะต้องมีการเตรียมเตรียมกระดาษไปจำนวนทั้งหมด 200 เตียงโดยเตรียมกระดาษนี้ผลิตมาจากบริษัทปูนซิเมนต์ไทยจำกัดซึ่งมีการอนุเคราะห์มอบมาให้

           โดยข้าวของที่เตรียมไปในครั้งนี้นั้นทางด้านกระทรวงการต่างประเทศได้มีการเตรียมเพื่อนำไปส่งมอบให้กับสภากาชาดของประเทศอินเดีย

พื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนชาวอินเดียที่ตอนนี้ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และในขณะเดียวกันนั้นเที่ยวบินลำดังกล่าวนี้ยังจะมีการรับคนไทยจากประเทศอินเดียกลับมาที่ประเทศไทยอีกด้วยหลักการให้ข้อมูลเบื้องต้นของทางด้านเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทยณได้ให้ข้อมูลว่าคนไทยที่จะเดินทางกลับมาในเที่ยวบินดังกล่าวนั้นจะมีผู้ป่วยทั้งหมด 3 คนด้วยกัน

         ซึ่ง 1 ใน 3 คนนั้นมีความเสี่ยงสูงที่ติดเชื้อไวรัสโควิช- เนื่องจากว่ามีการตรวจพบสภาพของปอดนั้นทั้งสองข้างมีการติดเชื้อและตอนนี้อาการก็หนักมากรวมถึงยังมีไข้ขึ้นสูงซึ่งแพทย์ที่เดินทางไปพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศจะมีการคอยดูแลรักษาอาการของผู้ป่วยทั้ง 3 คนอย่างไรก็ตามจากการได้รับฟังข้อมูลเบื้องต้นนั้นคนไทยทั้ง 3 คนไม่ได้รักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลที่ประเทศอินเดียเนื่องจากว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์และสถานที่ในโรงพยาบาลนั้นไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยของประเทศอินเดียในขณะนี้นั่นเอง 

  อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเช่นเดียวกันว่าผู้ป่วยที่ถูกรับตัวมาในประเทศไทยนั้นอาจจะมีการแพร่เชื้อไวรัสโควิด สายพันธุ์อินเดียให้กับคนไทยได้เช่นเดียวกันเพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยนั้นมีการติดเชื้อเลิกเร็วมากขึ้นเพราะสายพันธุ์อินเดียนั้นค่อนข้างอันตรายมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.      สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ