ที่จังหวัดขอนแก่นได้มีผู้ปกครองคนหนึ่งพาลูกสาวของตนเองซึ่งขนาดนี้กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจเมื่อวันที่ 10 เดือนสิงหาคมปีพ. ศ. 2563 ซึ่งทางผู้ปกครองของเด็กหญิงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดสามัคคีพัฒนารามหรือที่รู้จักกันดีในนามของพระอธิการธนชัย กิตติคุตโต โดยผู้ปกครองของเด็กหญิงได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกสาวของเขานั้นถูกแอบถ่ายใต้กระโปรง
โดยพระอาจารย์เป็นผู้ดำเนินการและเป็นคนแอบถ่ายนั่นเองซึ่งมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโออยู่ในโทรศัพท์มือถือของพระอาจารย์อย่างแน่นอนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการเชิญตัวพระอธิการธนชัยมาที่สถานีตำรวจเพื่อให้รับทราบข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นซึ่งทางด้านพระอภิชัยนั้นได้มีการปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยบอกว่าตนเองนั้นไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามขณะที่มีการพูดคุยกันในสถานีตำรวจอยู่นั้นเด็กหญิงชั้นม 4 ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้มีการเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าเธอได้เดินทางไปที่วัดเพื่อต้องการที่จะไปทำบุญโดยเธอนั้นกำลังจะให้อาหารปลาแต่เผอิญว่าเดินไปเจอกับพระอธิการธนชัยเสียก่อนซึ่งเมื่อพระอธิการรู้ว่าเธอจะให้อาหารปลาก็บอกว่าการให้อาหารปลานั้นไม่ทำให้เธอได้บุญมากเท่ากับการที่เธอนั้นทำความสะอาดบริเวณวัด
ซึ่งพระอธิการธนชัยสั่งให้เธอกับเพื่อนๆของเธอนั้นไปทำความสะอาดพระเจดีย์พระธาตุหลวงโดยบอกว่าถ้าทำความสะอาดที่นี่จะได้บุญใหญ่อีกทั้งยังคอยเดินตามเธอและเพื่อนๆอยู่ตลอดเวลาซึ่งขณะที่เธอและเพื่อนกำลังทำความสะอาดตรงบริเวณที่ขี้เทียนอยู่นั้นพระอธิการธนชัยได้มีการแนะนำท่ายืนว่าให้ยืนถ่างขากว้างๆจะได้ไม่ล้มศาลจะได้มั่นคงซึ่งเธอและเพื่อนไม่ได้คิดอะไร
และได้ทำตามที่แนะนำแต่เธอสังเกตเห็นว่าพระอธิการธนชัยมักจะเดินตามเธออยู่เสมอพร้อมทั้งถือโทรศัพท์มือถือเหมือนกับถ่ายรูปอยู่ตลอดเวลาเธอจึงได้นำเรื่องราวนี้ไปเล่าให้พ่อของเธอฟังหลังจากที่ทำความสะอาดภายในบริเวณวัดเสร็จแล้วพ่อของเธอจึงได้พาเธอมาแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อต้องการให้ดำเนินคดีกับพระอธิการธนะชัยซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูโทรศัพท์มือถือปรากฏว่าพระอธิการได้มีการลบคลิปไปหมดแล้ว
แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีผู้เชี่ยวชาญสามารถกู้คลิปดังกล่าวกลับคืนมาได้และพบภาพในโทรศัพท์มือถือเป็นคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงของเด็กหญิงมัธยมศึกษาปีที่ 4 จริงๆจึงได้ดำเนินการจับกุมเป็นเจ้าอาวาสก็ได้มีการบอกว่าตัวท่านเองนั้นไม่ได้ที่จะดูใต้กระโปรงของเด็กหญิงเพียงแต่ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นการฝึกจิตใจของตนเองให้มีความเข้มแข็งและต้องการให้ตัดกิเลสจากทางโลกได้นั่นเอง
จึงได้ทำการดังกล่าวผู้ปกครองของเด็กหญิงซึ่งไม่พอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและต้องการที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจับพระอธิการธนชัยสุขไม่ต้องเป็นเจ้าอาวาสประจำวัดอีกแล้วเพราะไม่อยากให้ไปทำเรื่องไม่ดีกับชาวบ้านคนอื่นๆ
สนับสนุนโดย ae บาคาร่า
