อดีตเซลล์ซ่อมรถถูกวิสามัญกล้องวงจรปิดจับภาพพบเดินถือปืนเข้ามาในโชว์รูมทำเพื่อนร่วมงานผวา
อดีตเซลล์ซ่อมรถถูกวิสามัญ ที่จังหวัดอุดรธานีมีรายงานข่าวก็มาว่ามีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมชายรายหนึ่งอายุประมาณ 28 ปีชื่อว่านายจเด็จซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากว่ามีผู้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจว่านายจะเด็ดได้มีการถือปืนเข้ามาในโชว์รูมเหมือนกับว่าต้องการที่จะมาฆ่าใครซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุทันทีโดยเมื่อเดินทางมาถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่านายจเด็จไม่ได้ทำร้ายใครเพียงแค่ถือปืนเดินไปเดินมาอยู่ในโชว์รูมหลังจากนั้นเขาก็เดินออกมาแล้วขึ้น
รถซึ่งระหว่างนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาเคาะกระจกเพื่อเรียกนายจเด็จมาพูดคุยและให้ยอมวางอาวุธแต่นายจเด็จไม่ได้สนใจขับรถหนีตำรวจออกไปทันทีทำให้ตำรวจขับรถตามออกไปซึ่งหลังจากนั้นก็พบว่านายจเด็จถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมไปแล้วโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เหตุผลว่านายจเด็จมีการต่อสู้ขัดขืนจึงได้มีการวิสามัญซึ่งตัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า
เนื่องจากว่าแม่ของนายจเด็จได้มีการแจ้งความให้ตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยแม่ของนายจะเด็จอ้างว่าลูกชายของตนเองนั้นเป็นคนดีและไม่เชื่อว่าลูกชายจะมีการยิงต่อสู้ขัดขืนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะแม่ของนายจเด็จอ้างว่าได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูแล้วว่าลูกชายก็มีการขับรถออกมาจากโชว์รูมตามปกติและยังมีการแวะปั๊มน้ำมันซึ่งก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะก่อเหตุยิงใครจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสอบสวนนายตำรวจทั้ง 5 คนที่ก่อเหตุวิสามัญฆาตกรรมนายจเด็จและอยากจะให้ตำรวจทั้ง 5 คนที่ฆ่าลูกของเธอได้มาขออโหสิกรรมที่งานศพของนายจเด็จด้วยซึ่งเพื่อนร่วมงานหลายคนได้ให้ข้อมูลว่า
โดยปกติแล้วนายจะได้เป็นคนดีตั้งใจทำงานขยันหมั่นเพียรแต่มาช่วงหลังๆประมาณปีที่แล้วน่าจะเด็ดมีอาการหูแว่วคล้ายๆกับคนเป็นโรคประสาทเพราะชอบบอกว่าตนเองได้ยินเสียงคนเรียกอยู่ตลอดเวลาซึ่งในอดีตถูกนายจ้างไล่ออกจากงานเพราะว่านายจเด็จนั้นเดินเข้าไปในบ้านของนายจ้างในช่วงเวลาเช้ามืดซึ่งนายจ้างไม่ได้เรียกแต่หลังจากที่นายเสด็จถูกไล่ออกจากงานไปแล้ว
ก็ยังเคยมาเยี่ยมเพื่อนๆอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ยังคงมีอาการหูแว่วโดยมีการเล่าให้เพื่อนฟังซึ่งก่อนหน้านั้นนายจะเด็กก็เคยถือไม้เข้ามาที่โชว์รูมโดยมาตามหาเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เคยทะเลาะกันแต่ไม่เจอเนื่องจากว่าเพื่อนร่วมงานคนดังกล่าวลาออกไปแล้วซึ่งในวันเกิดเหตุนายจเด็จได้มีการถือปืนเข้ามาในโชว์รูมแล้วก็เดินไปเดินมาทำให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ในโชว์รูมต่างพากันหวาดกลัวเพราะระหว่างที่มีการถือปืนเข้ามาในโชว์รูมนั้น
ท่าทางของนายจเด็จนั้นมีลักษณะของอาการเหม่อลอยคล้ายคนสติไม่ดีหลังจากที่นายจเด็จออกไปจากโชว์รูมแล้วไปเกิดเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญนั้น ต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐานการต่อไป
ได้รับการสนับสนุนโดย เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ