มีรายงานข่าวเข้ามาว่าเมื่อวันที่ 9 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2563
ยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของ สน. ทองหล่อได้มีการตั้งด่านตรวจจับรถยนต์บนท้องถนนปกติ ปรากฏว่ามีรถเบนซ์สีขาว ขับผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกตรวจและขอทำการค้นรถ ซึ่งในรถคันดังกล่าวมีคนนั่งมารวม 3 คนและหนึ่งในนั้นคือ นางสาว บุษญา ลูกสาวของนาย บรรยิน ตั้งภากรณ์ ซึ่งเธอเคยลงสมัครเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรณ์ โดยเลือกลงสมัครในจังหวัดนครสวรรค์ ที่เขตหนึ่ง แต่ว่าเธอไม่ได้รับการเลือกจากประชาชน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นก็พบว่ามี 2 ใน 3 คนที่มีฉี่สีม่วงและหนึ่งในนั้นคือ นางสาว บุษญา ลูกสาวของนายบรรยิน ตั้งภากรณ์ เอง โดยเธอได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอเพิ่งเสพยาอีมา เมื่อประมาณสองวันที่แล้ว และภายในรถยนต์ยังพบ ยาเสียสาว อีกจำนวนสองเม็ด ซึ่งมีนาย พรพัฒน์ เป็นคนรับสารภาพว่ายาดังกล่าวเป็นของตัวเอง ซึ่งตอนนี้นางสาวบุษญาและเพื่อนเพื่อนได้ถูกควบคุมตัวไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แค่เรื่องสามีถูกจับติดคุกเพราะข้อหาจ้างวานฆ่า ภรรยาของนายบรรยิน ตั้งภากรณ์ ก็คงทุกข์ใจมากพออยู่แล้ว แล้วนี่วันนี้ลูกสาวยังมาถูกจับข้อหาเสพยาอีอีก แม่จะทุกข์ใจมากแค่ไหน และที่สำคัญเธอคือคนที่เคยลงสมัครเป็น สส. เสียด้วย เธอเคยทีจะพยายามเข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชนในรัฐบาล แต่สิ่งที่เธอทำและกำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้มันไม่ใช่สิ่งที่คนที่คิดว่าตนเองจะอุทิศตนเพื่อประชาชนสวมควรที่จะทำเลย เธอมีความสวย หุ่นดี มีความสามารถ และเธอก็มีเงินทอง แต่ทำไมถึงคิดตัดอนาคตของตัวเองด้วยการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ลองคิดดูว่าหากเธอได้รับการคัดเลือกเข้ามาเป็น สส. ในสภาแล้ว
เธอจะมีอำนาจมากกว่านี้ เรื่องยาเสพติดของเธออาจจะเปลี่ยนจากการเสพมาเป็นการขายแทนก็ได้ เพราะเธอมีอำนาจอยู่ในมือของเธอแล้วเธอจะทำอะไรก็ได้ และตำรวจก็จะต้องเกรงกลัว และไม่กล้าจับกุมหรือตรวจค้นรถของเธอ หากเป็นแบบนั้นจริงจริงอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยของเรา พ่อก็ยังไม่พ้นเรื่องคดีพัวกันเกี่ยวกับการฆ่าคน ลูกยังมายุ่งกับยาเสพติดอีก เมื่อเธอมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแบบนี้แล้วก็อย่าหวังจะเข้ามาสมัครเป็น สส. เข้ามาทำงานในสภาได้อีกเลย เพราะประชาชนคงไม่สามารถเชื่อใจให้คนแบบนี้มาเป็นผู้แทนได้อีกต่อไป
สนับสนุนโดย Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ