DNS-Server การกำหนดมาตรฐานระบบชื่อโดเมน หรือ DNS (Domain Name System) ถูกใช้งานมานานร่วม 20 ปีแล้ว DNS จึงเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่ง Windows Server นั้นได้สนับสนุนการทำงานของ DNS และในตอนนี้เราจะศึกษาวิธีการทำงานกับ DNS Server
รู้จักกับ DNS-Server (Domain Name System)
DNS เป็นระบบที่ใช้สำหรับกำหนดชื่อคอมพิวเตอร์และบริการในเครือข่าย TCP / IP ซึ่งกำหนดเป็นชื่อตามลำดับชั้นที่อยู่ในโครงสร้างของโดเมน เมื่อมีการค้นหาคอมพิวเตอร์และบริการที่ต้องการโดยใช้ชื่อโดเมน DNS จะแปลงจากชื่อโดเมนเป็นไอพีแอดเดรสให้กับไคลเอนต์
ตัวอย่าง คอมพิวเตอร์ที่ให้บริการอีเมลในโดเมน siam2019.com จะแทนตำแหน่งโฮสต์ หรือเครื่องด้วยชื่อโดเมน mail.siam2019.com ซึ่งเป็นชื่อที่จดจำได้ง่ายแทนไอพีแอดเดรส
DNS ใน Windows Server จะทำงานด้วยซอฟต์แวร์ 2 ส่วน คือ DNS Client และ DNS Server กล่าวคือ เมื่อไคลเอนต์ได้รับชื่อโดเมนของเว็บโฮสต์ในเครือข่าย หรือชื่อโดเมนบนอินเทอร์เน็ตที่ต้องการเข้าถึง DNS Client จะเข้าสู่กระบวนการสืบค้นข้อมูลไอพีแอดเดรส โดยเริ่มจากไฟล์ Host ภายในเครื่องที่ไดเรกทอรี c:\windows\system32\drivers\etc ที่เก็บข้อมูลโดยจับคู่ชื่อโดเมนกับไอพีแอดเดรสเอาไว้ หากไม่เจอก็จะสืบค้นโดยสอบถามไปที่ DNS Server ซึ่งมีฐานข้อมูลที่ประกอบด้วยเรคอร์ดที่จับคู่ชื่อโดเมนกับไอพีแอดเดรสของเครื่อง (เราเรียกกระบวนการสืบค้นข้อมูลของ DNS Client ว่า Resolver) เมื่อสืบค้นเจอแล้ว DNS Server จะส่งไอพีแอดเดรสของเครื่องนี้กลับมายังเครื่องไคลเอนต์ เราเรียกการแปลงชื่อโดเมนเป็นไอพีแอดเดรสนี้ว่า Forward Mapping และ DNS ยังทำหน้าที่แปลงจากไอพีแอดเดรสเป็นชื่อโดเมนด้วย ซึ่งเรียกว่า Reverse Mapping
โครงสร้างของชื่อโดเมนเนม
DNS ทำหน้าที่ในการรวมกลุ่มคอมพิวเตอร์ให้อยู่ภายในโดเมน โดเมนที่เชื่อมต่อบนเครือข่ายท้องถิ่น (LAN) แบบ Private Network (เครือข่ายส่วนบุคคล) สามารถกำหนดชื่อโดเมนใช้ภายในองค์กรเองได้ แต่โดเมนที่เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เป็น Public Network (เครือข่ายสาธารณะ) เราจะต้องจดชื่อโดเมนกับหน่วยงานกลางที่กำกับดูแลให้จดทะเบียนชื่อโดเมนนั่นเอง เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของชื่อโดเมนซึ่งมีลำดับชั้นแบบต้นไม้ ดังนี้