สร้างหนทางปลดปล่อยจิตใจให้เป็นอิสระ

สร้างหนทางปลดปล่อยจิตใจ แบบของตัวเองผมเองก็กำลังคันหาวิธีใช้ชีวิตอย่างอิสระ และเชื่อว่ายังมีคนอีกมากมายที่ต้องการเป็นอิสระเช่นกัน ความเป็นอิสระในที่นี้คือ”อิสระทางกาย” และ “อิสระทางใจ”ครับอิสระทางกาย หมายถึง “การเลือกสิ่งหนึ่งจากตัวเลือกจำนวนมาก” ตัวอย่างเช่น การเลือกที่อยู่ ต้องมีธรรมชาติล้อมรอบ เดินทางสะดวก หรือแม้แต่การใช้ชีวิตในต่างประเทศก็ต้องได้อาศัยในสถานที่สะดวกและตรงกับความชอบของเรา เวลาซื้อของก็จะไม่ตัดใจเพียงเพราะว่าราคาแพง

หรือหากตัดสินใจเลือกไม่ได้ก็ซื้อทั้งสองชิ้นเลยการเลือกสถานที่ทำงานต้องเป็นสถานที่ที่ดึงศักยภาพในการทำงานของเราออกมาได้ดีที่สุด เวลาเลือกบริษัทคู่ค้าหรือเลือกเพื่อนก็เลือกคนที่เข้ากันได้ดี อยู่ด้วยแล้วสบายใจ หรือเวลาจัดตารางการทำงานก็เลือกจัดการงานในหนึ่งวันตามที่ตัวเองสะดวกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ทำสิ่งเหล่านี้ได้คือ เราต้องมีเงิน

เมื่อมีเงิน เราย่อมเช่าห้องราคาแพงและซื้อของที่ต้องการได้ หากเปลี่ยนงานแล้วเงินเดือนน้อยลงหรือต้องว่างงานไปสักระยะหนึ่งก็ยังอยู่ได้ไม่จำเป็นต้องคบกับคนที่เข้ากันไม่ได้ และยังใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระเหมือนเดิม

ดังนั้น วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ คือ การทุ่มเทหาเงินให้ได้มาก ๆ นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ผมเขียนหนังสือเกี่ยวกับ การเงินออกมาหลายเล่มแต่ยังมีสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระ

สิ่งนั้นคือ”อิสระทางใจ” หมายถึง “การไม่ปล่อยให้ผู้อื่นมีอิทธิพลหรือควบคุมความรู้สึกของตัวเอง” เราต้องใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกโอนเอนไปมาจนเกิดอารมณ์โกรธ กังวล เศร้า หรือสับสน เพราะตัวตน คำพูด หรือ การกระทำของคนอื่น พูดง่ายๆคือ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังอารมณ์ดีได้”

การจะทำเช่นนี้ได้เราต้องมีจิตใจและความคิดที่”มองทุกเรื่องทุกสถานการณ์ในแง่บวกได้” หรือเปลี่ยนตัวเองให้เกิดความคิดเช่นนั้นได้หากคิดได้ว่า “คนอื่นจะทำอะไรหรือคิดยังไงก็ช่าง” หรือ “ตัวเราก็คือตัวเรา” เราก็จะไม่โมโหหรือหงุดหงิดขณะที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็น”เรื่องที่น่เจ็บปวด” หากเรามองเห็นเป็นเพียง”เรื่องเล็กน้อย” ก็จะไม่กังวลหรือเหนื่อยล้าจนเกินเหตุเป้าหมายของหนังสือเล่มนี้ก็คือการสร้างสภาพจิตใจและความคิด เช่นนี้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝาก-ถอน เอง

คิดบวก….ทำให้ชีวิตคุณบวกขึ้นไปด้วย

คนเราทุกคนเกิดมามีปัญหากันคนละแบบ แล้วถ้าเราเจอปัญหาเราจะมั่วแต่เครียดและเศร้าไปทำไม เราแค่หันมาลองดูว่าเหตุการณ์ที่เราเจอมันต้องมีอะไรดีๆตามมาด้วยแน่นอน การที่คุณคิดบวกได้ มันจะทำให้ชีวิตของคุณอยู่ในทิศทางที่มีพลังบวกเช่นกัน มาดูกันว่าเราจะจัดการกับมุมมองหรือความคิดของตัวเองได้อย่างไรบ้าง

รู้จักการสร้างความสุขจากข้างใน

หลายคนคงมองหาความสุขจากภายนอกมากมาย แต่คุณหรือไม่หากข้างนอกสุขแค่ไหน แต่ข้างในไม่มีความสุขสุดท้ายนั้นก็คือความสุขที่ไม่ใช่ของจริง ดังนั้นการที่คุณจะมีความสุขมันต้องเกิดจากข้างใน จงมองทุกอย่างให้เป็นเรื่องดีเสมอถึงแม้ว่าบางทีเรื่องที่เราเจอะจะโหดร่ายขนาดไหนก็ตาม จิตใจที่เข็มแข็งและความสุขที่แท้จริงจะหาได้ ก็ต่อเมื่อตัวคุณเองต้องเข้มแข็งและให้ความสุขจากตัวเองโดยมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ 

คิดบวกในทุกปัญหา และมองบนโลกความจริง

การคิดบวกในแต่ละปัญหานั้นจะทำให้ปัญหานั้นดูเบาลง ซึ่งมันจะช่วยทำให้คุณคลายความเครียดหรือความทุกข์ลงได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นหันมาคิดบวกบนพื้นฐานความเป็นจริงในปัญหาที่เราเจอ เพราะการที่คิดบวกนอกจากจะเป็นการให้กำลังใจคนอื่นแล้ว นั้นคือเป็นการให้กำลังใจตัวเองได้ฮึดสู้ต่อเหมือนกัน

เชื่อมั่นในตัวเองไว้

การที่บางครั้งเราท้อเราทุกข์เราเหนื่อยล้า จงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราจะผ่านมันไปได้และทุกๆอย่างจะคลี่คลายหรือเบาลง ต่อเมื่อเราเชื่อมั่นในตัวเราเองและลงมือทำมัน เพราะการมองโลกในแง่ร้ายและปล่อยชีวิตมันเป็นไป มันไม่มีทางช่วยให้คุณดีขึ้นได้หรอก มันต้องสร้างมาจากข้างในของคุณและลงมือทำมัน

ไม่สนใจคนที่คิดลบ 

เพราะคนเรานี้ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเพราะแบบนี้เองเราไม่จำเป็นต้องเอาคนที่คิดลบเข้ามาในชีวิตเพื่อทำให้ตัวเองหยุดอยู่กลับที การที่คนเราจะอยู่ในที่ที่ดี นั้นต้องมาจากคนที่คนบวกและสิ่งแวดล้อมบวกๆ การที่ไปติดกับคนที่มีมุมลบ จะทำให้เราหดหู่ไปด้วย เพราะอย่างงั้นเดินออกมาเถอะ

ยอมรับในความผิดพลาด

กว่าคุณจะผ่านมาคิดบวกได้ คุณต้องเจอปัญหาและเจอความผิดพลาดที่ทำให้ผิดหวัง คุณแค่เปิดใจยอมรับมันและแค่ทำใจสู้กับสิ่งที่มีและต้องเจอในปัจจุบันพอ เพราะอดีตไม่มีคำว่าอนาคต แต่ปัจจุบันกำลังเดินหน้าไปสู่อนาคต จิงคิดดีและยอมรับข้อผิดพลาด!

 

สนับสนุนโดย.  ufabetฝ่ายบริการ