สาวโพสต์ภาพใบเสร็จโรงพยาบาลเก็บ 4920 บาททั้งที่ได้มาแค่ยาแก้ปวดกับยาฆ๋าเชื้อ

            ในโลกสังคมออนไลน์กำลังมีการถกเถียงกันอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอได้โพสต์ใบเสร็จรับเงินจากโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนโดยใบเสร็จรับเงินที่เธอระบุนั้นถูกเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นถึง 4920 บาทโดยเธอบอกว่าค่ารักษาพยาบาลนี้เธอมีความรู้สึกว่ามันค่อนข้างแพงมากเกินไปสำหรับเธอเพราะเมื่อเธอเดินทางมาถึงโรงพยาบาลและทำการตรวจรักษากับคุณหมอเจ้าของไข้ปรากฏว่าคุณหมอไม่ได้ทำอะไร

หรือตรวจอะไรเธอมากเลยเพียงแค่จับนิดๆหน่อยๆแล้วก็สั่งยาแก้ปวดกับยาฆ่าเชื้อให้เธอหลังจากนั้นเธอต้องมาเสียเงินถึง 4000 กว่าบาทซึ่งเธอมองว่าโรงพยาบาลเรียกเก็บแพงมากจนเกินไปโดยในโพสต์ของเธอนั้นยังมีการระบุด้วยว่า หรือว่าโรงพยาบาลจะคิดเงินเธอผิด

          หลังจากที่เธอมีการโพสต์ข้อความนี้ออกไปก็เกิดมีคนในโลกออนไลน์ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและถกเถียงกันออกเป็น 2 ฝ่ายซึ่งบางคนมองว่าการที่เธอสงสัยค่ารักษาพยาบาลนั้นเราควรจะต้องมีการถามกับทางโรงพยาบาลโดยตรงไม่สมควรที่จะเอานำมาถามผ่านทาง Social Media ว่าถึงอย่างไรทางคนในโซเชียลมีเดียก็ไม่สามารถให้คำตอบกับเธอได้และที่สำคัญการที่เธอนำข้อมูลของทางโรงพยาบาลออกมาโพสต์ในลักษณะแบบนี้เหมือนเป็นการประจานโรงพยาบาลซึ่งเป็นการส่งเสียงมากที่เธอจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายเพราะผิด พรบ. คอมพิวเตอร์นั่นเอง 

          ในขณะที่เสียงอีกกลุ่มเปิดหนึ่งกลับบอกว่า ค่ารักษาพยาบาลที่หญิงสาวถูกเรียกเก็บนั้นเป็นอัตราค่าบริการปกติเพราะโรงพยาบาลเอกชนมักมีการเรียกเก็บอัตราค่าบริการที่แพงอยู่แล้วถึงแม้จะให้บริการเพียงแค่นิดๆหน่อยๆก็ตามดังนั้นใบเสร็จที่เธอจ่ายมานั้นนับได้ว่าเป็นใบเสร็จที่ถูกต้องแล้ว

        อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้วเธอได้มีการนำข้อความมาโพสบอกเล่าให้คนในโลกออนไลน์ได้ทราบอีกครั้งหนึ่งว่าหลังจากที่เธอมีการติดต่อไปทางโรงพยาบาลเกี่ยวกับเรื่องของข้อสงสัยในใบเสร็จรับเงินที่เธอจ่ายแพงในที่สุดทางโรงพยาบาลก็ออกมายอมรับกับเธอแล้วว่าทางแผนกการเงินได้มีการพิมพ์การเรียกเก็บใบแจ้งค่าบริการกับเธอผิดทำให้ใบเสร็จออกมายอดค่าบริการสูงเกินจริงซึ่งทางโรงพยาบาลยินดีรับผิดชอบทุกอย่างและจะทำการคืนเงินในส่วนที่เกินให้กับเธอ

        สำหรับใบเสร็จรับเงินที่ทางโรงพยาบาลออกมายอมรับว่ามีการเรียกเก็บลูกค้าที่ไปใช้บริการผิดพลาดนั้นจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของทางโรงพยาบาลเป็นอย่างมากเพราะจะทำให้ลูกค้าอีกหลายคนที่ได้อ่านข้อมูลข่าวสารนี้นำไปเป็นตัวเปรียบเทียบหากว่าตนเองไปใช้บริการที่โรงพยาบาลดังกล่าวแล้วมียอดเรียกเก็บค่าบริการที่สูงก็อาจจะมีผลกระทบตามมาว่าลูกค้าของโรงพยาบาลจะต้องให้โรงพยาบาลนั้นมีการชี้แจงใบเสร็จทุกครั้งและจะกลายเป็นปัญหาระยะยาวแบบต่อเนื่องได้เลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.  เล่นบาคาร่าออนไลน์ฟรีไม่ต้องฝาก

เจ้าของอู่เอารถลูกค้าไปขับ จน เกิดอุบัติเหตุชนคนตาย 

          เมื่อวันที่ 30 เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564  ได้มีหญิงสาวคนหนึ่ง ระบุว่าตนเองเป็นผู้เสียหายโดยเธอได้มีการเล่าให้นักข่าวฟังว่าในช่วงประมาณเดือนตุลาคมตั้งแต่ปีพศ2563 เธอได้นำรถยนต์ของเธอไปเข้าอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการด้วยอู่ซ่อมรถดังกล่าวนั้นอยู่แถวบริเวณย่านแพรกษา  ซึ่งสาเหตุที่เธอนำรถเข้าอู่นั้นก็เพราะเธอต้องการให้ช่วยทำสีให้กับรถของเธอทั้งคันโดยมีการระบุเวลาในการทำสีใหม่ว่าจะต้องใช้เวลานาน 3 เดือนโดยเจ้าของอู่ซ่อมรถคิดเงินค่าทำสีในครั้งนี้อยู่ที่ 9,000 บาท

       แล้วเมื่อครบกำหนดสัญญาเธอจึงได้เดินทางไปรับรถปรากฏว่าร้านซ่อมรถทำสีใหม่ออกมาไม่ดีเธอจึงให้เจ้าของอู่ทำการแก้ไขสีให้เธอใหม่ซึ่งได้มีการนัดกันใหม่ว่าจะมีการมารับรถได้อีกครั้งหนึ่งประมาณวันที่  10 เดือน  มกราคม ปีพ.ศ.  2564  แต่ปรากฏว่าเมื่อเธอเดินทางมาที่อู่ซ่อมรถก็พบว่ารถยนต์ของเธอนั้นยังไม่ได้เสร็จเรียบร้อยดีดังนั้นเจ้าของอู่ซ่อมรถจึงนัดให้เธอมารับใหม่อีกครั้งหนึ่ง

       ทางด้านหญิงสาวที่เป็นเจ้าของอู่ยังบอกอีกด้วยว่าพอถึงวันที่ 18 เดือนมกราคมปรากฏว่าอยู่ดีๆเจ้าของอู่ก็โทรเข้าไปหาเธอที่โทรศัพท์มือถือและบอกให้เธอนั้นนำเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์ของเธอมาที่สถานีตำรวจเนื่องจากว่าเขาได้นำรถของเธอออกไปขับแล้วเกิดอุบัติเหตุและเมื่อเธอเดินทางมาเห็นรถยนต์ของเธอที่สถานีตำรวจก็ปรากฏว่ามีร่องรอยการถูกชนตรงบริเวณกลางลำของรถยนต์ของเธอได้รับความเสียหายอย่างหนักและเธอมารู้ภายหลังว่าเกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ขับมาชนรถยนต์ของเธอทำให้รถมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาชนนั้นเสียชีวิตตายคาที่ทันที

          และจากอุบัติเหตุในครั้งนี้เธอได้ทำการตกลงกับทางอู่ซ่อมรถต่อหน้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทางเจ้าของอู่จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยจะต้องมีการย้ายรถของเธอนั้นไปซ่อมที่อู่แห่งใหม่แทน  และเมื่อนำรถไปตีราคาค่าซ่อมปรากฏว่าอู่ใหม่มีการคิดเงินในการทำสีและซ่อมแซมรถทั้งคันอยู่ที่ 50,000 บาทในตอนแรกนั้นเจ้าของอู่ที่นำรถของเธอไปเกิดอุบัติเหตุจะไม่ยอมจ่ายเงินแต่เธอไม่ยินยอมทำให้เจ้าของอู่นั้นจ่ายเงินค่ามัดจำให้เธอไปแล้ว 20,000 บาท 

            หลังจากมัดจำถูกจ่ายไปแล้วจนถึงปัจจุบันนี้เธอก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าของอู่ที่นำรถของเธอไปเฉี่ยวชนได้เลยที่สำคัญเงินอีก 30000 บาทที่จะต้องจ่ายหลังจากซ่อมรถยนต์เสร็จแล้วนั้น  ก็ยังไม่ได้รับซึ่งเธอไม่รู้ว่าจะต้องติดต่อกับหน่วยงานไหนหรือทำอย่างไรดีจึงอยากจะให้ทนายความที่มีความรู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรงมาให้คำปรึกษาเธอ 

 

สนับสนุนโดย      บาคาร่า sa

คนร้ายบุกจี้มือถือ ในห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า

               มีข่าวลือแพร่สะพัดในสังคมออนไลน์ว่ามีเหตุการณ์บุกชิงทองกันเกิดขึ้นที่เซ็นทรัลลาดพร้าวและเจ้าของสร้อยทองได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ข้อมือเนื่องจากว่าเจ้านั้นใช้มีดกรีดข้อมือของเจ้าของสร้อยก่อนจะเอาสร้อยหนีไปอย่างไรก็ตามเมื่อมีการตรวจสอบและทางด้านเซ็นทรัลลาดพร้าวเองก็ได้ออกมาพูดถึงข่าวที่กำลังแพร่สะพัดกันอยู่ในขณะนี้ปรากฏว่าข้าวที่แท้จริงนั้นมีการเกิดการจี้ชิงทองกันในห้างเกิดขึ้นจริงและเกิดขึ้น

ที่ห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าซึ่งแผนที่ชิงทรัพย์สินนั้นเป็นการจี้เพื่อจะเอาโทรศัพท์มือถือ iPhone ไม่ได้เป็นการจี้เอาทองได้อย่างไร และที่เจ้าของโทรศัพท์มือถือได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือก็เป็นความจริงเมื่อโจรดังกล่าวนั้นได้มีการขโมยมีดที่อยู่ในห้างต้องส่งบริเวณขายสินค้าใน tops Supermarket นำไปเป็นอาวุธในการที่ลูกค้าที่มาใช้บริการภายในห้าง

ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ชั้น 1 ของห้างแถวๆบริเวณทางเข้าห้องน้ำนั่นเองและเมื่อโจรนั้นได้ขโมยโทรศัพท์มือถือไปได้เป็นที่เรียบร้อยก็ไปหลบซ่อนตัวอยู่แถวคลองซึ่งอยู่ตรงข้างๆกับห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้านั่นเองและเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ได้มีการจับกุมคนร้ายได้ในที่สุดแล้วซึ่งกฎหมายนั้นมีอายุอยู่แค่ 27 ปีเท่านั้น

          สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าในช่วงนี้จะเดินทางไปที่ไหนก็ควรจะมีการระมัดระวังตัวเป็นพิเศษหากเป็นไปได้ก็ไม่ควรออกไปไหนนอกจากว่าตอนนี้มีหลายคนที่ไม่มีรายได้จึงได้ทำตนเองมาเป็นโจรขโมยและมักจะทำร้ายผู้เสียหายให้ได้รับบาดเจ็บไม่ว่าจะเป็นการกระชากสร้อยแล้วถีบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายล้มลงหรือแม้แต่การที่ใช้มีดจี้

แล้วทำร้ายเจ้าของทรัพย์สินก่อนที่จะเอาทรัพย์สินไปซึ่งช่วงนี้ยิ่งถ้าใครใส่ทองคำจะยิ่งเป็นอันตรายเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทองคำนั้นราคาขายนั้นค่อนข้างสูงดังนั้นจึงเป็นสิ่งล่อตาล่อใจให้โจรขโมยนั้นจี้ชิงทรัพย์โดยเฉพาะทองคำเพื่อนำไปขายดังนั้นหากใครก็ตามที่ต้องการออกไปทำธุระนอกบ้านสิ่งที่ไม่ควรเตรียมติดตัวออกไปนอกบ้านด้วยก็คือการใส่ทองซึ่งถือว่าจะเป็นตัวล่อให้โจรขโมยเข้ามาหาตนเองแล้วอันตรายต่อเจ้าของทรัพย์สินได้นั่นเอง

อันนี้ตามข่าวที่เกิดขึ้นนั้นมีการรายงานว่าเจ้าของโทรศัพท์มือถือนั้นได้รับบาดเจ็บที่นิ้วเพราะคนร้ายใช้อาวุธมีดจี้เจ้าของทรัพย์สินนั้นได้มีการขัดขืนนั้นเองโชคดีมากที่จะจัดการในครั้งนี้คนร้ายไม่ได้ใช้มีดทำร้ายร่างกายเจ้าของทรัพย์สินจนถึงแก่ชีวิต และเหตการณ์นี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่มีทรัพย์สินเยอะไม่ว่าจะเป็นเงินสด หรือทอง ไม่ควรนำติดตัวไปเยอะเมื่อต้องออกนอกบ้าน เพราะอันตรายมากนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    Royal casino