หญิงสาวตะลึงเห็นชายแก่เลียราวสะพาน

         เมื่อวันที่ 10 เดือนเมษายนปีพศ 2563 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเป็นผู้หญิงได้มีการโพสต์ภาพชายแก่คนหนึ่งที่สวมเพลงกางเกงตัวเดียวกำลังยืนเลียราวสะพานอยู่โดยใกล้ๆกันนั้นมีจักรยานยนต์ 2 ล้อจอดอยู่พร้อมกับมีป้ายติดเอาไว้ว่าเป็นผู้ป่วยติดไวรัสโควิด-19  เมื่อเธอเห็นดังนั้นเธอก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากจึงได้มีการถ่ายคลิปและถ่ายรูปภาพเอาไว้ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเวลาประมาณ 16:00 นของวันเดียวกันนั้นเองตรงบริเวณใกล้กับสี่แยกยางเนิ้ง

โดยเธอได้มีการโพสต์บอกเล่าเรื่องราวว่าในวันเวลาดังกล่าวเธอกำลังเดินทางกลับจากการไปที่หมู่บ้านสารภีและในขณะที่ขับรถกำลังจะกลับบ้านแต่ว่ารถติดไฟแดงนั้นเธอก็เห็นชายแก่คนนึงขี่จักรยานพ่วงข้างเข้ามาจอดตรงบริเวณที่เกิดเหตุหลังจากนั้นลงจากรถจักรยานได้ใช้แก่คนดังกล่าวก็ทำการเรียนเราสะพานทันทีซึ่งไม่เคยเห็นเธอก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากแล้วเมื่อสายตาไปเห็นตรงรถจักรยานพ่วงข้างยาวมีการติดป้ายเอาไว้ว่าชายแก่คนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโควิด-19

เธอก็ยิ่งตกใจมากเธอก็ใหญ่เลยเธอยังระบุอีกว่านอกจากจะเลียเราสะพานแล้วชายแก่คนดังกล่าวยังเลียแขนมือตัวเองอีกด้วยซึ่งหลังจากที่เขาเรียกเราสะพานเสร็จแล้วก็ขี่จักรยานยนต์ต่อไปโดยเธอไม่รู้ว่าเขาจะไปไหนแต่ชายแก่คนดังกล่าวมาจอดจักรยานยนต์ใกล้ๆกับรถของเธอทำให้เธอรู้สึกกลัวเป็นอย่างมากอีกทั้งเธอยังบอกใน Facebook อีกว่าเธอแค่ต้องการโพสต์เตือนภัยให้กับคนที่อยู่ในบริเวณนั้นทราบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่ปลอดภัยเพราะมีคนมาเลียน้ำลาย

ทิ้งเอาไว้เกรงว่าหากใครไม่รู้แล้วไปจับจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ โดยเธอบอกว่าก่อนที่เธอจะมาโพสต์เรื่องราวบน Facebook ส่วนตัวของเธอนี้เธอได้มีการโทรประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้วแต่ไม่สามารถติดต่อได้จึงได้ทำการเตือนภัยให้กับคนที่มีที่อยู่อาศัยอยู่บริเวณนั้นให้ทราบหลังจากที่ข่าวนี้ได้มีการเผยแพร่ออกไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ลงตรวจสอบพื้นที่

ซึ่งคนในละแวกดังกล่าวได้มีการแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าใช้คนดังกล่าวนั้นเป็นคนในพื้นที่ที่อาศัยอยู่มานานหลายสิบปีแล้วแต่ชายแก่คนนั้นเป็นคนจิตไม่ปกติซึ่งมักจะเดินทางไปเก็บเศษผักเพื่อเอาไปให้เป็ดให้ไก่ที่เลี้ยงไว้กินเป็นประจำโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองจะได้มีการควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไปตรวจสอบอาการว่ามีความผิดปกติจริงหรือไม่และยังได้ประสานงานให้กับกระทรวงสาธารณสุขน้ำยาฆ่าเชื้อมาฉีดพ่นในบริเวณดังกล่าวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป 

 

ขอขอบคุณ      ีดฟิำะ   ที่ให้การสนับสนุน

จิตรลดา ฆาตกรโรคจิตเพิ่งออกจากคุก กลับมาก่อเหตุฆ่าเด็กหญิงวัย 4 ขวบ

       จังหวัดนครปฐมมีเหตุการณ์เศร้าสลดเกิดขึ้นโดยพบว่ามีเด็กหญิงอายุแค่เพียง 4 ปีเท่านั้นถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาชื่อเด็กหญิงคนดังกล่าวเป็นเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 2 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐมซึ่งคนที่มาพบหนูน้อยดังกล่าวพบว่าเด็กถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่มีอาการรู้สึกตัวแล้วเมื่อนำส่งโรงพยาบาลไม่นานเดี๋ยวก็เสียชีวิตลงเนื่องจากว่าทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเมื่อสอบถามถึงผู้ก่อเหตุก็พบว่าผู้ก่อเหตุคือนางสาวจิตรลดาอายุประมาณ 50 ปี

ซึ่งนางสาวจิตรดานี้เพิ่งมีประวัติพ้นโทษออกมาจากเรือนจำได้ไม่นานโดยก่อนหน้านี้เธอมีคดีก่อเหตุฆ่าเด็กนักเรียนคอนแวนต์ตายจำนวน 4 ศพเมื่อประมาณปีพศ 2548 ซึ่งในตอนนั้นทางศาลได้มีการสั่งตัดสินจำคุกเธอเป็นระยะเวลา 8 ปีแต่เมื่อเธอสารภาพประกอบกับมีการส่งเธอไปตรวจสอบสุขภาพจิตพบว่าเธอมีปัญหาอาการทางจิตจึงทำให้ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือให้เธอเพียงจำคุกแค่เพียง 4 ปีเท่านั้น

และเมื่อเธอออกจากคุกก็ได้มีการพาเธอไปรักษาตัวต่อที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ซึ่งเป็นสถาบันที่ดูแลผู้มีปัญหาอาการทางจิตแต่ไม่ทราบว่าอย่างไรที่เธอออกจากสถาบันมาได้แล้วมาก่อเหตุฆ่าเด็กหญิงวัยแค่เพียง 4 ขวบอีกครั้งหนึ่งในวันนี้โดยมีรายงานข่าวแจ้งเข้ามาว่าหลังจากที่นางสาวจิรดาได้มีการฆ่าหนูน้อยเรียบร้อยแล้วเธอก็ได้หลบหนีไปแล้วต่อมาไม่นานเธอก็เดินทางไปที่สถานีตำรวจที่  สภ. นครชัยศรีเอง พร้อมทั้งรอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาฆ่าเด็กหญิงวัยเพียง 4 ขวบ

       เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสียใจและต้องสลดให้กับผู้คนเป็นจำนวนมากที่ทราบข่าวเพราะหนูน้อยวัยเพียง 4 ขวบกำลังอยู่ในวัยน่ารักไม่ควรจะต้องมาจบชีวิตลงเพราะคนมีปัญหาทางจิตแบบนี้สิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการสืบและตรวจสอบต่อไปก็คือในเมื่อนางสาวจิตรลดามีอาการทางจิตทำไมถึงสามารถออกมาจากโรงพยาบาลแล้วมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้งนึงได้และที่สำคัญหานางสาวจิตรลดาต้องปิดเครื่องอีกครั้งหนึ่งแล้ว

เธอยอมรับสารภาพว่าเธอก่อเหตุฆ่าเด็กจริงเธอจะได้ลดโทษกึ่งหนึ่งเหมือนเดิมหรือไม่แล้วเมื่อเธอออกมาจากคุกเธอจะมาก่อเหตุฆ่าคนอื่นซ้ำอีกหรือเปล่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรจะมีซ้ำวนไปวนมาผู้ก่อเหตุที่ฆ่าคนตายไม่ควรที่จะได้รับการยกโทษการพิพากษาการจำคุกควรจะมีบทลงโทษอย่างหนักสำหรับผู้ที่ก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเรื่องของการฆ่าคนตายถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะมีปัญหาทางจิตแต่ก็ไม่ควรอนุโลมให้เพราะยิ่งมีปัญหาทางจิตก็ยิ่งไม่ควรปล่อยให้บุคคลเหล่านี้ออกมาเพ่นพ่านรวมกับบุคคลอื่นทำให้เกิดอันตรายกับผู้อื่น

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sa gaming เครดิต ฟรี

เปิดบริการรับส่งหมอกับพยาบาลฟรี

           ท่ามกลางในสิ่งที่เลวร้ายไม่ว่าจะปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาอยู่ในขณะนี้รวมถึงปัญหาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่สามารถควบคุมได้ ในสังคมไทยของเราก็ยังมีสิ่งดีๆเข้ามาให้เราได้ชื่นฉ่ำใจมันอยู่บ้าง อย่างกรณี แท็กซี่ คันหนึ่งที่ได้มีการประกาศผ่าน Facebook ส่วนตัวของตนเองว่าจะมีการรับส่งหมอและพยาบาลให้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆเพราะเห็นใจหมอและพยาบาลที่ถูกแท็กซี่หลายคันรังเกียจเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้มีข่าวเรื่องของหมอและพยาบาลมักจะถูกคนในสังคมรังเกียจ

เกรงว่าจะเป็นผู้ที่นำเชื้อโรคมาแพร่เพราะต้องใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าทำให้หมอและพยาบาลหลายคนออกมาตัดพ้อต่อสังคมว่าทั้งที่ต้องทำงานหนักแต่ก็ยังถูกสังคมรังเกียจซึ่งหนึ่งในคนที่เห็นใจหมอและพยาบาลก็คือนายประเจิด  สังข์เจริญซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่เขาได้มีการบอกเล่าเรื่องราวเอาไว้ว่าได้มีการปรึกษากับภรรยาไว้เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงความคิดที่อยากจะช่วยเหลือสังคม

โดยเฉพาะหมอและพยาบาลที่ถูกสังคมรังเกียจด้วยการเปิดบริการขับรถแท็กซี่รับส่งให้ฟรีหากมีหมอและพยาบาลคนไหนบอกด้วยแท็กซี่ของตนเองโดยนายประเจิด ได้เล่าถึงความคิดนี้ว่าอยากจะทำดีเพื่อช่วยเหลือสังคมบ้างแต่ไม่ได้มีทุนทรัพย์มากนักจึงได้ปรึกษากับภรรยาและสามารถช่วยเหลือสังคมได้ด้วยการช่วยหมอและพยาบาลแทนซึ่งเป็นสิ่งที่เขาและภรรยาสามารถทำได้ในตอนนี้

     หลังจากที่เรื่องราวของแท็กซี่รายนี้มีการเผยแพร่ออกไปมีผู้คนเป็นจำนวนมากต่างให้ความช่วยเหลือแท็กซี่เรานี้ด้วยเขาเล่าว่าบางครั้งมีคนโบกรถแท็กซี่แต่ก็ไม่ได้ขึ้นเพียงแต่โบกรถแท็กซี่ของเขาเพื่อต้องการบริจาคหน้ากากอนามัยรวมถึงเจล ล้างมือเพื่อที่จะให้เขาติดรถไว้ใช้เองรวมถึงอาจจะให้หมอและพยาบาลใช้กรณีที่มีหมอและพยาบาลขึ้นมาใช้บริการรถแท็กซี่รวมถึงบางครั้งเมื่อเข้าไปจอดรถตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ

ก็จะมีพนักงานห้างรวบรวมเงินมาให้เขาด้วยบอกว่าช่วยเหลือเขาในเรื่องของค่าน้ำมันและค่าแก๊สเพราะตัวเขาเองก็ช่วยเหลือหมอและพยาบาลในการให้นั่งรถฟรีเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งใจกับประชาชนในสังคมเป็นอย่างมากที่ต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกันตัวเขาเองก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในครั้งนี้เช่นเดียวกันโดยแท็กซี่คันดังกล่าวบอกเล่าเรื่องราวว่าตนเองมีอาชีพขับแท็กซี่มานานถึง 6 ปีด้วยกั

นมาปีนี้ที่รายได้ของเขาค่อนข้างลดลงเป็นอย่างมากจำนวนผู้โดยสารที่เคยมีการนั่งแท็กซี่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดทำให้เขาขาดรายได้ผู้โดยสารส่วนใหญ่เกรงว่าการนั่งรถแท็กซี่นั้นจะทำให้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ง่ายเพราะเป็นการนั่งในที่แคบ  เชื้อไวรัสสามารถแพร่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้จำนวนผู้โดยสารลดลงมากถึง 80% ด้วยกัน

       ซึ่งเรื่องราวแท็กซี่มีน้ำใจที่จะช่วยรับส่งหมอและพยาบาล กำลังเป็นที่กล่าวถึงของผู้คนในสังคม Social เป็นอย่างมากซึ่งหลายคนรู้สึกประทับใจกับสิ่งที่แท็กซี่คันดังกล่าวกำลังจะทำอยู่และพร้อมที่จะให้ความสนับสนุนแท็กซี่คันดังกล่าวอย่างเต็มที่ 

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   เซ็กซี่ บาคาร่า ทดลองเล่น

ชายหนุ่มอาศัยสถานการณ์โควิดแอบคบซ้อน

 

อาศัยสถานการณ์โควิดแอบคบซ้อน

       อาศัยสถานการณ์โควิดแอบคบซ้อน มีข่าวทางสื่อออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของตนเองในช่วงที่มีปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับสาวๆอีกหลายคนไม่ให้ต้องประสบพบเจออย่างที่เธอเองกำลังเจออยู่ในขณะนี้ในเรื่องราวของเธอได้มีการโพสต์ลง Facebook ส่วนตัวบรรยายเล่าถึงชีวิตของเธอโดยระบุชื่อเป็นนามสมมุติว่านางสาวเอ โดยเธอได้มีการเล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเธอว่าเธอได้มีการตกลงคบหากับผู้ชายคนนึงมาประมาณ 1 ปีกว่าแล้ว

ซึ่งในช่วงหลังๆนี้ทางรัฐบาลมีการรณรงค์ให้ทำงานแบบ work from home รวมถึงให้เว้นระยะห่างกันสักพักซึ่งแฟนหนุ่มของเธอก็ใส่ในช่วงนี้บอกกับเธอว่าไม่ให้เธอไปหาอะไรช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19  เพราะกลัวจะมีการติดเชื้อไวรัส แต่อยู่ดีๆวันนึงเธอก็ชวนแม่ของเธอเดินทางไปหาแฟนหนุ่มที่คอนโดซึ่งเธอได้มีการถ่ายคลิปเอาไว้ด้วยเมื่อไปถึงคอนโดก็ทำให้เธอพบว่าแฟนหนุ่มของเธอแอบซ่อนหญิงสาวอีกคนหนึ่งไว้ในห้องน้ำของคอนโดซึ่งตอนแรกเธอเข้าไปเธอยังไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแต่แฟนหนุ่มของเธอ

เมื่อเห็นเธอและแม่ของเธอก็ทำท่าทางไม่พอใจและต่อว่าที่เธอเดินทางมาหาโดยไม่บอกล่วงหน้า ในตอนแรกเธอไม่รู้ว่ามีผู้หญิงคนอื่นอยู่ด้วยแต่บังเอิญเธอปวดท้องจะเข้าห้องน้ำแต่แฟนของเธอห้ามไม่ให้เธอเข้าห้องน้ำ ทำให้เธอสงสัยดังนั้นในช่วงจังหวะที่แฟนของเธอเผลอเธอจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำจึงทำให้พบว่ามีผู้หญิงอีกคนนึงอยู่ในห้องน้ำกำลังยืนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวเธอจำได้ว่าเป็นแฟนเก่าของแฟนหนุ่มของเธอและ

เมื่อคุยกันไปมาจึงทำให้รู้ว่าทั้งสองคนแอบคบกันได้มาสักพักนึงแล้วและพากันมาอยู่ด้วยกันที่ห้องดังกล่าวในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงที่แฟนหนุ่มของเธอห้ามไม่ให้เธอเดินทางมาหานั่นเองก็ยังได้บอกเล่าเกี่ยวกับเงินที่เธอช่วยเหลือแฟนหนุ่มไปทั้งเงินแม่เธอที่นำไปช่วยปิดบัญชีบัตรเครดิตและเงินที่เธอส่งให้แฟนเป็นค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ในช่วงที่ไม่ได้ทำงานซึ่งนางสาวเอก็ได้คุยตกลงกับแฟนโดยฝ่ายชายยืนยันจะเลือกแฟนเก่าและขอเลิกกับเธอทำให้เธอเสียใจเป็นอย่างมาก เธอจึงได้นำเรื่องราวส่วนตัวนี้มาโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับหญิงสาวอีกหลายคนให้ระวังอย่ารักใครมากกว่าตัวเอง

เพราะอาจจะโดนเหมือนที่เธอโดนอยู่ในขณะนี้ซึ่งเธอก็ได้มีการระบุใต้โพสต์ด้วยว่าไม่ต้องไปต่อว่าฝ่ายชายเรื่องเงินที่เธอจะให้ฝ่ายชายไปเพราะเป็นความเต็มใจที่เธอช่วยเหลือฝ่ายชายเองทางด้านผู้ชายที่เป็นแฟนของนางสาวเอก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าหมดรักนางสาวเอนานแล้วแต่ไม่กล้าบอกส่วนเงินที่นางสาวเอให้ยืมมานั้นก็จะทำเรื่องคืนให้กับนางสาวเอให้หมดทุกบาททุกสตางค์ อย่างแน่นอน

ต้องระวังเป็นอย่างมาก สถานการณ์โควิด มีมิจฉาชีพฉวยโอกาสมากมาย เหมือนกรณี ปลอมตัวเป็นหมอตรวจเชื้อโควิด

 

ได้รับการสนับสนุนเรื่องราวโดย  www.ufabet.com ลิ้งเข้าเว็บไซต์คะ

แต่งหมอหลอกชาวบ้านรักษาโควิด-19

 

แต่งหมอหลอกชาวบ้านรักษาโควิด-19 ฟรี ยายวัย 71 ปีโดนฉกทอง ขณะไปอาบน้ำฆ่าเชื้อโรค

       แต่งหมอหลอกชาวบ้านรักษาโควิด ที่จังหวัดกาฬสินธุ์มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากขโมยที่แอบอ้างเป็นหมอเข้ามาขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านถึงในบ้าน   ด้วยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์มีคุณยายวัย 71 ปีได้มีการประสานงานแจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้านว่ามีผู้ชายคนนึงแต่งตัวลักษณะคล้ายกับหมอมีกระเป๋าสะพายข้างสีดำขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าบ้านและบอกว่าเป็นหมอมารักษาและตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าให้กับประชาชนฟรีซึ่งคุณยายวัย 71 ปีก็หลงเชื่อโดยชายคนที่แต่งกายคล้ายหมอได้มีการบอกให้คุณยายไปอาบน้ำเพื่อล้างสิ่งสกปรกและฆ่าเชื้อออกจากร่างกายก่อนเพื่อที่จะได้มาตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่ากับคุณหมออีกครั้งหนึ่งซึ่งคุณยายได้บอกว่าตอนที่เดินไปอาบน้ำนั้นคุณยายได้นำงานกระเป๋าเงิน

ซึ่งมีเงินอยู่ในนั้นประมาณ 20,000 บาทรวมถึงมีสร้อยคอทองคำอีก 1 บาทและยังมีโทรศัพท์มือถือซึ่งเก็บไว้ในกระเป๋าเดียวกันทั้งหมดโดยคุณยายนำกระเป๋าสมบัติไปวางอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำแล้วคุณยายล่ะว่าใช้เวลาในการอาบน้ำแค่เพียง 1 นาทีเท่านั้นเพราะราดน้ำแค่ 3 คันแล้วก็ออกมาจากห้องน้ำเลยแต่พอออกมาก็ไม่พบกระเป๋าเงินของตนเองที่วางอยู่เดินออกมาหน้าบ้านก็ไม่พบชายคนที่อ้างว่าเป็นหมออยู่แล้วและรถมอเตอร์ไซค์ก็หายไปจึงได้มีการตะโกนให้คนข้างบ้านรวมถึงลูกหลานที่อยู่ภายในบ้านออกมาช่วยกัน

ตามหาชายคนดังกล่าวแต่ก็ไม่มีวี่แววจึงได้เดินทางไปแจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้านว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเพื่อที่จะได้มีการประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนคนอื่นในหมู่บ้านรับทราบเพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุเหมือนกันซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านเองก็ได้มีการออกประกาศให้กับลูกบ้านได้ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งประสานงานแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้แล้วโดยในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาบุคคลที่แอบอ้างเป็นหมอ

และถือโอกาสเข้ามาขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านในช่วงที่กำลังมีความกลัวการติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ส่วนตัวผู้เสียหายเองทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่ายังไม่ได้มีการเดินทางเข้ามาแจ้งความแต่อย่างใดกำลังประสานงานผู้ใหญ่บ้านให้บอกผู้เสียหายให้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมด้วย 

         เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรจะต้องมีการประกาศให้กับชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลความเจริญได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องของโครงการที่จะมีการส่งหมอเข้าไปดูแลนั้นยังไม่มีนโยบายเพื่อที่ชาวบ้านจะได้ระวังตัวว่าหากมีใครแอบอ้างตัวว่าเป็นหมอเข้าไปนั่นแสดงว่าอาจจะเป็นกลุ่มโจรเพื่อเข้าไปหวังขโมยทรัพย์สิน เพราะในปัจจุบันนี้อย่างที่เราทราบกันอยู่ว่าคนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นมีเป็นจำนวนมากเกินกว่าจำนวนหมอและพยาบาลที่จะดูแลรักษาได้ดังนั้นในช่วงนี้จึงจะไม่มีนโยบายให้หมอและพยาบาลเดินออกมารักษาผู้ป่วยตามหมู่บ้านแน่นอน 

เราต้องระวังกันให้ดี อย่างเคสที่ภูเก็ต คนไข้ปกปิดข้อมูล จน หมอต้องถูกกักตัวที่ภูเก็ต กันมาแล้ว

 

สนับสนุนโดย  www.ufabet.com เริ่มเดิมพัน