เดือน: สิงหาคม 2020

  ผู้ใหญ่บ้านหากินกับความเดือดร้อน ที่จังหวัดบุรีรัมย์มีหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่งอยู่ในตำบลหนองแวงอำเภอละหานทรายได้มีชาวบ้านออกมาร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12   หากินกับประชาชนด้วยกันเรียกเก็บเงินคนละ 20 บาทเพื่อแลกกับสติ๊กเกอร์บุรีรัมย์ Healthy   ซึ่งมีประชาชนหลายคนหลงเชื่อและให้เงินดังกล่าวนั้นไปแต่หลังจากที่ทางชาวบ้านได้รับทราบว่าสติ๊กเกอร์บุรีรัมย์ Healthy นั้นเป็นสติ๊กเกอร์ที่ทางรัฐบาลได้มีการออกมาเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนฟรี

โดยไม่ต้องเสียตังค์จึงได้มีการส่งเรื่องร้องเรียนไปว่าถูกเลขเก็บเงิน   ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองได้มีการเข้าไปตรวจสอบและพบว่าผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้กระทำความผิดจริงโดยมีการเรียกเก็บเงินกับประชาชนทุกคนที่มีบัตรประชาชนซึ่งจริงๆแล้วสติ๊กเกอร์นี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน   ดูสติ๊กเกอร์ดังกล่าวเป็นสติ๊กเกอร์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ทำขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนนำไปติดบัตรประชาชนหรือว่าบัตรต่างด้าวของตนเองซึ่งเมื่อผ่านไปเส้นทางไหนที่มีด่านตรวจก็จะต้องมีการแสดงสติ๊กเกอร์นี้

ให้กับเจ้าหน้าที่ด่านดูเพื่อเป็นการยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์และได้มีการตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้วว่าไม่มีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งถ้าหากใครก็ตามที่ไม่ได้พกสติ๊กเกอร์นี้จะทำให้ทางเจ้าหน้าที่มีการกักตัวเพื่อรอประเมินร่างกายว่าจะมีเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือไม่   โดยการกระทำของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่เอาเปรียบชาวบ้านเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านที่ตอนนี้ทุกคนก็มีผลกระทบเรื่องของเงินไม่พอใช้อยู่แล้ว

แต่ยังต้องมาถูกเรียกเก็บเงินถึงแม้จะเพียงแค่ 20 บาทแต่ก็มีประชาชนบางคนที่เงิน 20 บาทตอนนี้ก็มีค่ายิ่งกว่าทองทั้งนี้หลังจากที่มีการจับกุมผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการแถลงการณ์ถึงการปรับปรุงในครั้งนี้และจะมีการสอบสวนเชิงลึกต่อไปว่ามีผู้ร่วมขบวนการมากกว่าผู้ใหญ่บ้านคนนี้หรือไม่และจะต้องมีการดำเนินคดีกับทางผู้ใหญ่บ้านคนนี้อย่างถึงที่สุด 

        ช่วงนี้มักจะมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องของพวกข้าราชการเริ่มหากินกับเงินช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัด ลำพูนที่อบตเบิกเงินหลวงมาหลายล้านเพื่อจะมาซื้อของประเภทถุงยังชีพแจกจ่ายให้กับชาวบ้านแต่เมื่อตรวจสอบเชิงลึกเข้าไปแล้ว กลุ่มข้าราชการและกลุ่มอบตเหล่านั้นก็อมเงินที่ช่วยเหลือชาวบ้านไปบางส่วนแล้วนำเงินเพียงเล็กน้อยมาซื้อของให้ชาวบ้านทั้งนี้ก็เช่นเดียวกันที่จังหวัดบุรีรัมย์ผู้ใหญ่บ้าน

ซึ่งเป็นคนที่คลุกคลีกับชาวบ้านดีเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านมากกว่าคนอื่นแต่กลับเห็นแก่ตัวคิดเก็บเงินชาวบ้านจากการแจกค่าสติ๊กเกอร์ทั้งนี้ผู้ที่เป็นข้าราชการที่กินภาษีเงินเดือนของประชาชนแล้วยังมากระทำผิดแบบนี้ควรจะมีบทลงโทษที่รุนแรงและควรจะไล่ออกจากราชการ

ได้รับการสนับสนุนโดย   เซ็กซี่ บาคาร่าออนไลน์

อดีตเซลล์ซ่อมรถถูกวิสามัญกล้องวงจรปิดจับภาพพบเดินถือปืนเข้ามาในโชว์รูมทำเพื่อนร่วมงานผวา

      อดีตเซลล์ซ่อมรถถูกวิสามัญ ที่จังหวัดอุดรธานีมีรายงานข่าวก็มาว่ามีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมชายรายหนึ่งอายุประมาณ 28 ปีชื่อว่านายจเด็จซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากว่ามีผู้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจว่านายจะเด็ดได้มีการถือปืนเข้ามาในโชว์รูมเหมือนกับว่าต้องการที่จะมาฆ่าใครซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุทันทีโดยเมื่อเดินทางมาถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่านายจเด็จไม่ได้ทำร้ายใครเพียงแค่ถือปืนเดินไปเดินมาอยู่ในโชว์รูมหลังจากนั้นเขาก็เดินออกมาแล้วขึ้น

รถซึ่งระหว่างนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาเคาะกระจกเพื่อเรียกนายจเด็จมาพูดคุยและให้ยอมวางอาวุธแต่นายจเด็จไม่ได้สนใจขับรถหนีตำรวจออกไปทันทีทำให้ตำรวจขับรถตามออกไปซึ่งหลังจากนั้นก็พบว่านายจเด็จถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมไปแล้วโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เหตุผลว่านายจเด็จมีการต่อสู้ขัดขืนจึงได้มีการวิสามัญซึ่งตัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า

เนื่องจากว่าแม่ของนายจเด็จได้มีการแจ้งความให้ตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยแม่ของนายจะเด็จอ้างว่าลูกชายของตนเองนั้นเป็นคนดีและไม่เชื่อว่าลูกชายจะมีการยิงต่อสู้ขัดขืนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะแม่ของนายจเด็จอ้างว่าได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูแล้วว่าลูกชายก็มีการขับรถออกมาจากโชว์รูมตามปกติและยังมีการแวะปั๊มน้ำมันซึ่งก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะก่อเหตุยิงใครจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสอบสวนนายตำรวจทั้ง 5 คนที่ก่อเหตุวิสามัญฆาตกรรมนายจเด็จและอยากจะให้ตำรวจทั้ง 5 คนที่ฆ่าลูกของเธอได้มาขออโหสิกรรมที่งานศพของนายจเด็จด้วยซึ่งเพื่อนร่วมงานหลายคนได้ให้ข้อมูลว่า

โดยปกติแล้วนายจะได้เป็นคนดีตั้งใจทำงานขยันหมั่นเพียรแต่มาช่วงหลังๆประมาณปีที่แล้วน่าจะเด็ดมีอาการหูแว่วคล้ายๆกับคนเป็นโรคประสาทเพราะชอบบอกว่าตนเองได้ยินเสียงคนเรียกอยู่ตลอดเวลาซึ่งในอดีตถูกนายจ้างไล่ออกจากงานเพราะว่านายจเด็จนั้นเดินเข้าไปในบ้านของนายจ้างในช่วงเวลาเช้ามืดซึ่งนายจ้างไม่ได้เรียกแต่หลังจากที่นายเสด็จถูกไล่ออกจากงานไปแล้ว

ก็ยังเคยมาเยี่ยมเพื่อนๆอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ยังคงมีอาการหูแว่วโดยมีการเล่าให้เพื่อนฟังซึ่งก่อนหน้านั้นนายจะเด็กก็เคยถือไม้เข้ามาที่โชว์รูมโดยมาตามหาเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เคยทะเลาะกันแต่ไม่เจอเนื่องจากว่าเพื่อนร่วมงานคนดังกล่าวลาออกไปแล้วซึ่งในวันเกิดเหตุนายจเด็จได้มีการถือปืนเข้ามาในโชว์รูมแล้วก็เดินไปเดินมาทำให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ในโชว์รูมต่างพากันหวาดกลัวเพราะระหว่างที่มีการถือปืนเข้ามาในโชว์รูมนั้น

ท่าทางของนายจเด็จนั้นมีลักษณะของอาการเหม่อลอยคล้ายคนสติไม่ดีหลังจากที่นายจเด็จออกไปจากโชว์รูมแล้วไปเกิดเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญนั้น ต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐานการต่อไป

ได้รับการสนับสนุนโดย   เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ